วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เรือใบเฮ!เฉือนชัยสาลิกา2-1หงส์เปิดรังพ่ายแบล็คพูล1-2


เรือใบเฮ!เฉือนชัยสาลิกา2-1หงส์เปิดรังพ่ายแบล็คพูล1-2

แมนฯ ซิตี้ เหนื่อยหนัก! ก่อนเชือด นิวคาสเซิ่ล 2-1 ! "เอเจ" สวมบทซุปเปอร์ซับซัดชัย ด้าน "หงส์แดง" อาการหนัก ถูก "ซีไซเดอร์ส" บุกมาอัด "อดัม" ซัดโทษ ก่อนที่ "วาร์นี่ย์" จะมายิงลูกที่ 2 ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก "คีร์เกียกอส" ยิงประตูปลอบใจ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรก ประจำค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค. 2553 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรัง ซิตี้ ออฟแมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ทัพเรือใบสีฟ้า ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ไม่มี ปาโบล ซาบาเลต้า ดาวเตะสารพัดประโยชน์ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมเสมอ ยูเวนตุส 1-1 ในศึก ยูโรป้า ลีก เดี้ยงไปสมทบกับ เวย์น บริดจ์ และ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ทำให้ เลสค็อตต์ ได้ลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ไร้ปัญหา ดาบิด ซิลบา, เจมส์ มิลเนอร์ และ ที่เป็นตัวสำรองกับ ยูเวสตุส ลงสนามปั้นเกมริมเส้น มี ไนเจล เด ยองก์, แกเร็ธ แบร์รี่ และ ยาย่า ตูเร่ คุมจังหวะแดนกลาง ส่วนหน้าเป้าเป็น คาร์ลอส เตเวซ ไล่ล่าประตู

คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือสาลิกาดง ลูกทีมฟอร์มยังไม่แน่ไม่นอน แต่เกมนี้มีข่าวดีคือ โซล แคมป์เบลล์ กองหลังจอมเก๋าซึ่งพลาดนัดแพ้ สโต๊ค 1-2 คารังสัปดาห์ก่อนพร้อมกลับมาเป็นอะไหล่สำรอง ไมค์ วิลเลียมสัน และ ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่ ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อย่างไรก็ตามทีมยังขาด สตีฟ ฮาร์เปอร์ โกลมือ 1 ที่ไหล่หลุด และพวกตัวเจ็บอยู่ก่อนอย่าง แดนนี่ กัทธรี, แดนนี่ ซิมพ์สัน, สตีเว่น เทย์เลอร์ และ แดน กอสลิ่ง เกมรุก โชล่า อเมโอบี้ เป็นหอกเป้าอยู่หน้า เควิน โนแลน

มาร์ติน แอ็ตคินสัน ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันครึ่งแรกมาได้เพียง 3 น. ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา โดน ไนเจล เด ยองก์ กระโดดเสียบขาคู่ จนเจ้าตัวนอนลงไปกองกับพื้นรับการปฐมพยาบาลกว่า 3 น.โดยมีเฝือกอ่อนดามไว้ที่บริเวณขาซ้าย และถูกหามตัวออกจาสนามขึ้นรถพยาบาลทันที และส่ง เวย์น เราท์เลดจ์ ลงสนามแทน

หลังจากนั้นแนวรุกของเจ้าบ้านทั้ง เจมส์ มิลเนอร์,ดาบิด ซิลบา พยายามสร้างสรรค์เกมรุก แต่บอลยังไปไม่ถึง คาร์ลอส เตเวซ ในพื้นที่สุดท้าย

เรือใบได้จุดโทษ! น.17 คาร์ลอส เตเวซ โดน ไมค์ วิลเลี่ยมสัน เกี่ยวล้มลงในกรอบเขตโทษ มาร์ติน แอ็ตคินสัน เป่าเป็นจุดโทษ พร้อมควักใบเหลืองแรกของเกมแจก ไมค์ วิลเลี่ยมสัน ทันที คาร์ลอส เตเวซ ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารด้วยเท้าขวาเต็มแรง บอลพุ่งเป็นหัวจรวดแฉลบขา ทิม ครูล ที่พุ่งไปทางซ้าย เข้าไปกลางประตูซุก เรือใบสีฟ้า ขึ้นนำ 1-0

น.23 ฟาบริซิโอ โกลอชชิ ได้พักบอลด้วยหน้าขาหนึ่งจังหวะแล้วตวัดยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ จากนั้น น.24 โฮนาส กูเตียร์เรซ กระชากบอลทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะเปิดเข้ากลางไปโดน แว็งซองค์ กอมปานี สกัดมาเข้าทาง โฮนาส กูเตียร์เรซ วิ่งเข้าซัดด้วยขวาเต็มแรง เข้าประตูไปชนิดที่ตาข่ายเกือบขาด สาลิกาดง ตามตีเสมอ 1-1

น.35 ดาบิด ซิลบา แทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับ นิวคาสเซิ่ล ให้ แกเร็ธ แบรี่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่เปิดเข้ากลางไปติดขา ทิม ครูล ที่ออกมาปิดเสาแรกได้ดี ไม่ถึง เตเวซ ที่เตรียมเข้าชาร์ทที่หน้าปากประตู

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 น. โชล่า อเมโอบี้ ได้โอกาสตั้งป้อมยิงหน้าเขตโทษ ทว่าหลุดเสาสองไปไกล จากนั้นไม่มีทีมใดทำอะไรเพิ่มได้ ครบ 45 น. แมนฯ ซิตี้ 1-1 นิวคาสเซิ่ล

เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ 9 น. โฮนาส กูเตียร์เรซ หลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้าย เปิดเข้ามาทางเสาไกล เวย์น เราท์เลดจ์ เข้าชาร์ทไม่ทัน เฉี่ยวปลายสตั๊ดไปนิดเดียว ถัดมา 1 น. เตเวซ ตั้งป้อมยิงด้วยขวาริมเขตโทษฝั่งขวา ทิม ครูล ทุบบอลออกมาได้

เรือใบบุกเต็มสูบ! น.56 มันชินี่ ปรับระบบเป็น 4-4-2 ถอด ยาย่า ตูเร่ ออก แล้วส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ลงสนามยืนเป็นศูนย์หน้าคู่กับ เตเวซ ถัดมา 4 น. อเดบายอร์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เปิดบอลมาที่หน้าประตู ทิม ครูล อ่านเกมขาดพุ่งออกมาคว้าบอลไว้ได้ก่อนจะถึง แกเร็ธ แบรี่ ที่รอชาร์ทที่เสาสอง

น.72 แมนฯ ซิตี้ เน้นเกมรุก! อดัม จอห์นสัน ถูกส่งลงสนามแทนที่ แกเร็ธ แบรี่ ทำให้เหลือ ไนเจล เด ยองก์ ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกมเพียงคนเดียวเท่านั้น และผ่านไปเพียง 3 น. "เอเจ" อดัม จอห์นสัน ลากบอลจากกราบซ้ายผ่านแนวรับสาลิกาดง 2 คน เข้าไปสับไกริมเขตโทษฝั่งซ้ายด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งแรงลอดขา ไมค์ วิลเลี่ยมสัน เสียบตาข่ายเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

น.76 เควิน โนแลน ถูก คริส ฮิวจ์ตัน ถอดออก และเป็น แอนดี้ คาร์โรลล์ ที่ได้โอกาสลงล่าตาข่าย

น.79 อดัม จอห์นสัน กลับตัวยิงด้วยซ้ายอีกครั้ง ริมเขตโทษฝั่งขวา แต่บอลตรงตัว ทิม ครูล รับติดหนึบ

น.83 โจอี้ บาร์ตัน เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาเข้าไปที่เสาแรก ไมค์ วิลเลี่ยมสัน ลอยตัวขวิดเต็มหัว แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น

จากนั้นช่วงท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ พยายามครองงบอลไว้กับตัวให้นานที่สุดเพื่อเผาเวลา ส่วน นิวคาสเซิ่ล ไม่สามารถทำเกมรุกเข้าไปลุ้นทำประตูเพิ่มได้ จบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิ่ลไปได้ 2-1

รายชื่อนักเตะของทั้ง 2 ทีม
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : ผู้รักษาประตู - โจ ฮาร์ท, เยโรม บัวเต็ง , โคโล่ ตูเร่, แว็งซองค์ กอมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์ - ยาย่า ตูเร่ (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.56), ไนเจล เด ยองก์ - เจมส์ มิลเนอร์, แกเร็ธ แบร์รี่, ดาบิด ซิลบา - คาร์ลอส เตเวซ

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด(4-2-3-1) : ผู้รักษาประตู ทิม ครูล, เจมส์ เพิร์ช, ไมค์ วิลเลี่ยมสัน, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, ซานเชส โฆเซ่ เอ็นริเก้ - โจอี้ บาร์ตัน, ชีค ติโอเต้ - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา( เวย์น เราท์เลดจ์ น.3), โฮนาส กูเตียร์เรซ, เควิน โนแลน (แอนดี้ คาร์โรลล์ น.76) - โชล่า อเมโอบี้

"เดอะ ซีไซเดอร์" บุกมาซิวชัย "หงส์แดง" ถึง แอนฟิลด์ 2-1

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2553 คู่ที่ 2 ของวัน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนทีมน้องใหม่ "เดอะ ซีไซเดอร์" แบล็คพูล

เกมนี้ รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีม มีปัญหาใหญ่ที่ต้องให้แก้อยู่ที่ตำแหน่งแบ็กซ้าย เมื่อ พอล คอนเชสกี้ ได้รับบาดเจ็บในเกมล่าสุด ทำให้ไม่มีแบ็กซ้ายไว้ใช้งานเลย โดยที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ และ แดเนียล แอ็กเกอร์ ก็มีอาการบาด

เจ็บ ทำให้ภาระตกเป็นของ มาร์ติน เคลลี่ หรืออาจจะเป็น แดนนี่ วิลสัน แต่ก็ไม่แน่เพราะยังมี กองหลังทีมชาติกรีซ โซติริส คีร์เกียคอส อยู่อีกคน

ส่วนในแดนกลางไม่น่าที่จะมีปัญหา เมื่อจะได้ สตีเว่น เจอร์ราด์ด กลับมาประจำการ หลังจากที่ได้พักในเกมกลางสัปดาห์ ขณะที่แดนหน้ายงคงฝากความหวังไว้กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เช่นเดิม

มาที่ฝั่งทีมเยือน เอียน ฮอลโลเวย์ นายใหญ่ของทัพ แบล็คพูล ยังคงไม่มีกองหลังตัวหลัก อเล็กซ์ บัปติสต์ ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด และคงต้องพักยาว 6 สัปดาห์ แดนกลางได้ลุ้น เมื่อ เอลเลียต กร็องแด็ง มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศษมีสิทธิ์ที่จะกลับมา

ลงเล่น หลังจากต้องนั่งสำรองในเกมที่แล้ว ขณะที่แดนหน้า คาดว่าจะถอดเอา มาร์ลอน แฮร์วู้ด ออก และส่ง ลุค วาร์นี่ย์ กองหน้าที่สามารถลงมาเล่นต่ำได้ลงมาแทน

เริ่มเกมมาได้ 3 นาที ทีมเยือน เกือบมีโอกาสได้ลุ้นก่อนจาก แกรี่ เทย์เลอร์ เฟล็ทเชอร์ เปิดบอลจากด้านข้างเข้ามาในกรอบเขตโทษ ดัดลีย์ แคมป์เบลล์ เกี่ยวบอลไม่ติด และโดน มาร์ติน สเคอร์เทล เคลียบอลออกไป

น. 10 สาวกหงส์แดง ถึงกับเซง เมื่อ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวความหวังได้รับบาดเจ็บ จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป และส่ง ดาวิด เอ็นก็อก ลงมาแทน

น. 14 แบล็คพูล เกือบที่จะทำเอาเหล่ากองเชียร์ เดอะ ค็อป ทั้งสนามเงียบกริบ เมื่อ นีล เอิร์ดลี่ย์ ได้บอลจากแดนหลังมาทางฝั่งขวา โดยที่แบ็กซ้าย ของ ลิเวอร์พูล ลงมารับไม่ทัน ก่อนที่จะเปิดเข้าไปบอลลอยข้ามกองหลังไปหมดมาถึง

ดัดลีย์ แคมป์เบลล์ ได้กระโดเข้ามาแป ระยะ 6 หลา บอลออกหลังไป

น. 28 แบล็คพูล มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน เข้าเสียบสกัด ลุค วาร์นี่ย์ ขณะที่เลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน ไม่รีรอเป่าเป็นจุดโทษ และเป็น ชาร์ลี อดัม เป็นผู้สังหารจุดโทษ ยิงไปทางซ้ายมือบอลตุงตะข่ายเป็นประตูให้

ทีมเยือน ขึ้นนำไปก่อน 1-0

น. 36 ราอูล เมยเรเลส เลี้ยงบอลบุกขึ้นมาทางฝั่งขวาสุดเส้นในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายคืนมาให้ เกล็น จอห์นสัน ที่รออยู่ตรงกลางหลอกจะยิง 1 จังหวะ บอลมาเข้าเท้าขวา แต่ยิงไม่ดีบอลข้ามคานออกไปไกล

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ "เดอะ ซีไซเดอร์" ออกนำ "หงส์แดง" ห่าง 2-0 จาก ลุค วาร์นี่ย์ ได้บอลจาก แกรี่ เทย์เลอร์ เฟล็ทเชอร์ ที่ยกบอลมาให้หลุดกับดักล้ำหน้ายิงมุมแคบทางซ้ายมือของ โฆเซ่ เรน่า เข้าไป

เริ่มเกมมาในครึ่งหลัง แบล็คพูล ไม่มีที่ท่าทีกลัว ลิเวอร์พูล เลยแม้แต่น้อย เดินเกมบุกใส่ตั้งแต่เสียงนกหวีดดังขึ้นมา

น. 53 สาวก "หงส์แดง" ได้ใจชื้นขึ้มาบ้าง เมื่อได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมา 1-2 จาก ฟรีคิก สตีเว่น เจอร์ราร์ด บริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวา เปิดเข้ามา และเป็น โซติริออส คีร์เกียกอส ที่กระโดดเข้ามาโหม่ง ระยะ 6 หลาเข้าไป

น. 59 เจ้าบ้าน เกือบได้ลูกตีเสมอเมื่อ โจ โคล มีโอกาสยิงผ่าน แม็ทธิว จิลค์ส ที่ออกมาบล็อก ทว่าบอลวิ่งผ่านเสาไกลออก หลังไปอย่างน่าเสียดาย

น. 84 เจ้าบ้าน ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ซักพัก เพราะ แบล็คพูล พยามยามบุกเข้าใส่ แบบที่ไม่กลัวจะโดนสวนกลับเลย แต่ก็เข้าไปยิงไม่ได้โดน กองหลัง สกัดออกมาได้หมด

น. 90 ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาทางกราบขวา บอลมาอยู่ที่ เกล็น จอห์นสัน ก่อนที่จะเปิดเข้าไปหาจุดนัดพบกลางหรอบเขตโทษมี โซติริออส คีร์เกียกอส ที่กระโดเบียด กองหลังทีมเยือน โหม่งได้ก่อน แต่บอลลอยข้ามคานออกไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าบ้าน เกือบที่จะได้ประตูตีเสมอ มักซี่ โรดริเกซ เปิดเข้าไป และเป็น โซติริออส คีร์เกียกอส คนเดิมที่สอดขึ้นมาโหม่งเหน่งๆ ระยะ 6 หลา แต่บอลไปตรงตัว แม็ทธิว กิลค์ส เวฟเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ บอลยังอยู่หน้ากรอบเขตโทษ ผู้เล่นทีมเยือน ก็มาช่วยกันสกัดออกไป

จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ พ่าย แบล็คพูล 2-1

รายชื่อผู้เล่น ลิเวอร์พูล
โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, โซติริออส คีร์เกียกอส, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์ - คริสเตียน โพลเซ่น (มิลาน โยวาโนวิช น. 60), ราอูล เมยเรเลส, เดิร์ก เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล (มักซี่ โรดริเกซ น. 88) - เฟร์นานโด ตอร์เรส (ดาวิด เอ็นก็อก น. 10)

สำรองไม่ได้ใช้
แบรด โจนส์ - ลูคัส เลว่า, มาร์ติน เคลลี่, เจย์ สเปรียริ่ง

รายชื่อผู้เล่น แบล็คพูล
แม็ทธิว กิลค์ส - นีล เอิร์ดลี่ย์ (แม็ตต์ ฟิลลิปป์ น. 46), เอียน อีวัตต์, เคร็ก แคธคาร์ท (เดเคล คีนาน น. 20), สตีเฟ่น เครนี่ย์ - เดวิด วอห์น, เอลเลียต กร็องแด็ง (คีธ เซาเธิร์น น.63), ดัดลีย์ แคมป์เบลล์, ชาร์ลี อดัม,เอลเลียต กร็องแด็ง - แกรี่ เทย์เลอร์ เฟล็ทเชอร์, ลุค วาร์นี่ย์

สำรองไม่ได้ใช้
มาร์ค ฮัลสเต็ค - เบร็ตต์ ออร์เมร็อด, ลูโดวิช ซิลแวสเตร่, มาร์ลอน แฮร์วู้ด