วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

โปรแกรมกีฬา วันที่ 30 / 09 / 2553


ต่างประเทศ

ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ
02.05 น. เลช พอชนัน (โปแลนด์) - ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย)
02.05 น. แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) - ยูเวนตุส (อิตาลี)

กลุ่มบี
02.05 น. โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์) - อาริส (กรีซ)
02.05 น. แอตเลติโก มาดริด (สเปน) - เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมัน)

กลุ่มซี
02.05 น. เกนท์ (เบลเยียม) - ลีลล์ (ฝรั่งเศส)
02.05 น. สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) - เลฟสกี้ โซเฟีย (บัลแกเรีย)

กลุ่มดี
02.05 น. พีเอโอเค (กรีซ) - ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย)
02.05 น. บียาร์เรอัล (สเปน) - คลับ บรูช (เบลเยียม)

กลุ่มอี
02.05 น. บาเต้ บอริซอฟ (เบลารุส) - เอแซด อัล์คมาร์ (ฮอลแลนด์)
02.05 น. เชริฟฟ์ ติราสปอล (มอลโดวา) - ดินาโม เคียฟ (ยูเครน)

กลุ่มเอฟ
02.05 น. ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) - สปาร์ต้า ปราก (เช็ก)
02.05 น. ปาแลร์โม่ (อิตาลี) - โลซาน สปอร์ต (สวิส)

กลุ่มจี
00.00 น. ไฮดุ๊ก สปริท (โครเอเชีย) - อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม)
00.00 น. เซนิต (รัสเซีย) - เออีเค เอเธนส์ (กรีซ)

กลุ่มเอช
00.00 น. โอเดนเซ่ (เดนมาร์ก) - สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน)
00.00 น. ยัง บอยส์ เบิร์น (สวิส) - เคตาเฟ่ (สเปน)

กลุ่มไอ
00.00 น. ซามพ์โดเรีย (อิตาลี) - เดเบรเซ่น (ฮังการี)
00.00 น. เมตาลิสต์ (ยูเครน) - พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ฮอลแลนด์)

กลุ่มเจ
00.00 น. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) - คาร์ปาตี้ (ยูเครน)
00.00 น. ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) - เซบีย่า (สเปน)

กลุ่มเค
00.00 น. สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) - นาโปลี (อิตาลี)
00.00 น. อูเทร็ชท์ (ฮอลแลนด์) - ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)

กลุ่มแอล
00.00 น. ราปิด เวียนนา (ออสเตรีย) - เบซิคตัส (ตุรกี)
00.00 น. ซีเอสเคเอ โซเฟีย (บัลแกเรีย) - เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)

กอล์ฟเอเชียนทัวร์ เมอร์คิวเรียส ไต้หวัน มาสเตอร์ส ที่ประเทศไต้หวัน

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ มาเลเซียน โอเพ่น ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

เทนนิสดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ แพน แปซิฟิก โอเพ่น ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ในประเทศ

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น รอบแรก ที่ อิมแพค เมืองทอง เวลา 10.00 น.

ยิงเป้าบินไทยแลนด์ โอเพ่น ที่สนามยิงเป้าบิน หัวหมาก เวลา 09.30 น.

18.30 น. มวยไทย ศึกดาวรุ่งชูเจริญ เวทีราชดำเนิน

ฟาเบียนสกี้ลั่นขอหยุดเชลซี โวความมั่นใจกำลังเต็มเปี่ยม


ฟาเบียนสกี้ลั่นขอหยุดเชลซี โวความมั่นใจกำลังเต็มเปี่ยม

ได้ทีขี่แพะไล่! ฟาเบียนสกี้ โวลั่นกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด หลังพา ''ปืนใหญ่'' บุกไปเก็บ 3 แต้ม นัดล่าสุด ประกาศกร้าวพร้อมเฝ้าเสา หยุดเกมรุกอหังกาของ ''สิงห์บลูส์'' แล้ว

ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ผู้รักษาประตูมือสองของสโมสร อาร์เซน่อล โวลั่นกำลังอยู่ในช่วงความมั่นใจในตัวเองสูง หลังโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมที่ต้นสังกัดบุกไปเอาชนะ ปาร์ติซาน เบลเกรด ทีมดังของ เซอร์เบีย 3-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ประกาศกร้าวพร้อมอยู่เฝ้าเสาให้ทัพ "ปืนใหญ่" หยุดเกมรุกสุดอหังกาของ เชลซี คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน ที่มีคิวพบกันในคืนวันอาทิตย์นี้แล้ว

นายทวารชาวโปแลนด์ กล่าวว่า "โดยรวมแล้ว ผมพอใจกับฟอร์มตัวเองนะ ผมไม่ได้พูดแค่เรื่องการเซฟประตู มันรวมไปถึงการอ่านเกม,การตัดบอลโยน รวมถึงการเล่นบอลด้วยเท้า ทุกๆ อย่างที่จำเป็นสำหรับผู้รักษาประตู มันสำคัญกับผมหมด ผมพร้อมแล้วที่จะเจอกับ เชลซี ผมไม่เคยให้เรื่องนอกสนามมารบกวนสมาธิ ผมมุ่งมั่นแค่หน้าที่ของผมเท่านั้น"

สำหรับ ฟาเบียนสกี้ มีโอกาสสูงที่จะได้เป็นตัวจริงให้ต้นสังกัดอีกครั้ง เนื่องจาก มานูเอล อัลมูเนีย นายทวารมือ 1 ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วน "สิงห์บลูส์" คู่แข่งที่ "ปืนใหญ่" ต้องบุกไปเยือน วันอาทิตย์นี้ กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมรุกที่ซัดประตูคู่แข่งไปแล้วถึง 21 ลูก จาก 6 เกมที่ผ่านมา เฉลี่ยยิงได้นัดละ 3.5 ประตูเลยทีเดียว

ผีสุดเฮง!เล่นแย่แต่ซิวชัย1-0 ชิชาส่องท้ายเกมดับค้างคาว


ผีสุดเฮง!เล่นแย่แต่ซิวชัย1-0 ชิชาส่องท้ายเกมดับค้างคาว

"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกับเหงื่อตกกว่าจะบดเอาชนะ "ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย ถึงถิ่น 1-0 จากประตูชัยของ "ชิชาริโต้" ในช่วงท้ายเกม ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ซี

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 กลุ่มซี ประจำคืนวันพุธที่ 29 กันยายน 2553 เป็นการพบกันระหว่าง "ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย ตัวแทนจากลาลีกา สเปน ทีมนำของกลุ่ม เปิดรัง เมสตาย่า สเตเดี้ยม รับการมาเยือน "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ยอดทีมจากพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

เริ่มเกมครึ่งแรก บาเลนเซีย เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่นก่อน แต่เกมดำเนินถึงนาทีที่ 4 ทีมเยือน แมนฯ ยูฯ ได้โอกาสลุ้นก่อน จากจังหวะที่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่รับบทหอกเดี่ยว ได้ซัดหน้าเขตโทษ บอลข้ามคาน ชนิดที่ว่าใกล้เคียงมาก

น.16 รูปเกมค่อนข้างจะคู่คี่สูสีและทันกัน บาเลนเซีย ฉวยโอกาสจากจังหวะจ่ายบอลพลาดของ ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นทาง ปาโบล เอร์นานเดซ ฉกบอลไปยิงโล่งๆ หน้าเขตโทษระยะแค่ 20 หลา แต่บอลลอยโด่งข้ามคาน

น.17 เป็นอีกครั้งหนึ่งที แมนฯ ยูฯ เสียบอลในแดนตัวเอง อเลฮานโดร โดมิงเกซ ฉกบอลไปถึงสุดเส้นฝั่งซ้าย ก่อนหยอดเข้ากลางประตู เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาตัดบอลพลาด บอลไปตกที่หัว โรเบร์โต้ โซลดาโด้ พอดี แบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้บอลข้ามไปตกหลังคาน

น.19 จังหวะที่น่าได้ประตูมากที่สุด ของ แมนฯ ยูฯ มาจากการขึ้นเกมรุกทางฝั่งขวาของ นานี่ เปิดยัดเข้ากลาง อันแดร์สัน โฉบถึงบอลก่อนกองหลัง บาเลนเซีย แปตามน้ำจากเสาแรก บอลข้ามคาน

น.33 เกมค่อนข้างจะเนือยลงไปเยอะ เพราะทั้งสองทีมหาจังหวะเข้าทำแทบไม่ได้ แต่ บาเลนเซีย ก็ได้จังหวะหวาดเสียว เมื่อ ปาโบล เอร์นานเดซ กระชากบอลหลบ ปาทริซ เอวร่า ไปถึงสุดเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะเปิดเข้ากลาง บอลไหลผ่านหน้าโกล์ไปแบบน่าหวาดเสียว

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีจังหวะเข้าทำให้ได้ลุ้นสำหรับทั้งสองทีม จบครึ่งแรก บาเลนเซีย เสมอกับ แมนฯ ยูฯ ในรูปเกมที่จืดชืด 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น แต่เริ่มมา บาเลนเซีย บุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 49 ปาโบล เอร์นานเดซ ลากบอลตัดจากริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะซัดเต้มข้อด้วยว้าย บอลผ่านเสาไกลไปแบบได้ลุ้น

น.57 เกมของ แมนฯ ยูฯ เริ่มดีขึ้นตามลำดับ มีลุ้นเกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ รับบอลจากลูกวางยาวของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กระชากเข้าเขตโทษ ก่อนจิ้มมุมแคบ เซซาร์ ซานเชซ ใช้ขาเซฟออกหลังไป

น.64 บาเลนเซีย ยังเป็นฝ่ายครองเกมไว้เหนือกว่า แล้วก็มีโอกาสเข้าทำจะแจ้งอีกครั้ง จากจังหวะที่ ติโน่ คอสต้า แทงบอลอย่างแม่นยำให้ ปาโบล เอร์นานเดซ หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าเขตโทษ แต่จังหวะยิงช้าไปหน่อย โดนกองหลัง แมนฯ ยูฯ มาบล็อกทัน

น.74 จังหวะเข้าทำของ บาเลนเซีย ยังทำได้น่ากลัวกว่า แมนฯ ยูฯ มิเกล แบ็กขวาเติมเกมขึ้นสูง เปิดเข้ากรอบเขตโทษให้ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ โฉบมาโหม่ง บอลหลุดเสาไกลออกไป

น.77 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือใหญ่ของ แมนฯ ยูฯ เห็นเกมไม่ดี ต้องส่งกองหน้าลงไปเพิ่ม ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ถูกส่งลงไปแทน อันแดร์สัน

น.85 เฟเดริโก้ มาเคด้า ถูกส่งลงสนามมาเสริมเกมรุกอีกคน แล้วก็แผลงฤทธิ์ทันที เมื่อโดนบอลเป็นครั้งแรก หลุดเข้าเขตโทษก่อนตบกลับเข้ากลางให้ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ แตะบอลหลบกองหลัง บาเลนเซีย แล้วกดด้วยซ้าย เสียบมุมไปอย่างเฉียบขาด ให้ แมนฯ ยูฯ ขึ้นนำ 1-0

จบเกม แมนฯ ยูฯ บุกมาคว้าชัยชนิดหืดจับต่อ บาเลนเซีย 1-0 เก็บ 3 แต้ม ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ซี


รายชื่อผู้เล่น บาเลนเซีย
เซซาร์ ซานเชซ - มิเกล, ดาบิด นาบาร์โร่, เฮลวิคส์ มาดูโร่, เฌเรมี่ มาติเยอ - ปาโบล เอร์นานเดซ, ดาบิด อัลเบลด้า, ติโน่ คอสต้า (มานูเอล แฟร์นันเดส 75), ฆวน มาต้า - อเลฮานโดร โดมิงเกซ (อาริสซ์ อาดูริซ 59) - โรเบร์โต้ โซลดาโด้
สำรองไม่ได้ใช้
มิเกล อังเกล โมย่า - บรูโน่ ซัลตอร์, เมห์เม็ต โทปาล, โซฟิยาน เฟอกูลี่, ริคาร์โด้ คอสต้า

รายชื่อผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - ราฟาเอล ดา ซิลวา (จอห์น โอเช 90), ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ไมเคิ่ล คาร์ริค - นานี่, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน (ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 77), พาร์ค ชี-ซอง - ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (เฟเดริโก้ มาเคด้า 85)
สำรองไม่ได้ใช้
โธมัส คุสแช็ค - คริส สมอลลิ่ง, ดาร์รอน กิ๊บสัน, ไมเคิล โอเว่น

ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)


ผลฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง คู่อื่นๆ
กลุ่มเอ
สเปอร์ส (อังกฤษ) 4-1 ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์)
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 4-0 แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน)

กลุ่มบี
ฮาโปเอล เทลอาวีฟ (อิสราเอล) 1-3 ลียง (ฝรั่งเศส)
ชาลเก้ (เยอรมัน) 2-0 เบนฟิก้า (โปรตุเกส)

กลุ่มซี
บาเลนเซีย (สเปน) 0-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 1-0 บูร์ซาสปอร์ (ตุรกี)

กลุ่มดี
รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 1-1 บาร์เซโลน่า (สเปน)
พานาธิไนกอส (กรีซ) 0-2 เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก)

ไก่10ตัวอัดทเวนเต้4-1 พาฟสอย2โทษยูซีแอล


ไก่10ตัวอัดทเวนเต้4-1 พาฟสอย2โทษยูซีแอล

"ไก่เดือยทอง" สเปอร์ ได้สามโทษ เป็นสองประตูจาก "พาฟ" บวกอีกสองตุงจาก "ฟาร์ท" และ "เบล" แม้ว่า ฟาร์ท จะทั้งพลาดโทษ และโดนแดง แต่ก็อัด ทเวนเต้ ผู้มาเยือน จาก ฮอนแลนด์ ไป 4-1 เก็บสามแต้ม ขึ้นรั้งรองฝูง กลุ่ม เอ ฟุตบอลถ้วย "ยูซีแอล"

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2010-2011 ประจำวันพุธที่ 29 กันยายน 2553 เป็นการแข่งขันในนัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้าย ในกลุ่ม เอ ระหว่าง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปิดบ้านที่สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน พบกับ ทีมแชมป์ อีเรดิวิซี่ ของ ฮอลแลนด์ อย่าง เอฟซี ทเวนเต้ โดยในนัดแรก สเปอร์ บุกไปเสมอกับ "นกนางนวล" เบรเมน มาได้ 2-2 ส่วน ทเวนเต้ นัดที่แล้ว เฝ้าบ้าน ยันเสมอกับ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน มาได้ 2-2 เช่นกัน
วันนี้ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ต้องการเก็บชัยชนะในถ้วย "ยูซีแอล" เป็นนัดแรก เนื่องจากเจอทีมที่ไม่ได้แข็งแกร่งนัก อีกทั้งยังต้องการลบฝันร้ายที่พลาดท่าพ่าย เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย "จ่าแฮร์รี่" จัดทีมมาในระบบ 4-4-2 โดยเอา ปีเตอร์ เคร้าช์ จับคู่กับ พาฟลิวเชนโก้ ในแดนหน้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โมดริช, ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และ แกเร็ธ เบล ในการสร้างสรรค์เกมรุก ขณะที่กองหลังที่เป็นปัญหามาตลอดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ก็ผิดความคาดหมาย เมื่อได้ เล็ดลี่ย์ คิง หายเจ็บ ผ่านการทดสอบความฟิต ลงมาจับคู่กับ บาสซง ได้ทันเวลา

ส่วนทีมเยือน ทเวนเต้ เฮดโค้ชชาว "เบลเยียม" มิเชล พรูดอมม์ จัดทีมชุดใหญ่ลงมาฟัดกับ "ไก่เดือยทอง" โดยส่งลูกทีมลงมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 มี มาร์ค ยานโก้ กองหน้าชาว ออสเตรีย ยืนเป็นตัวเป้า ส่วนตัวสนับสนุนในแนวรุกสามประสาน เป็น เอเมียร์ บาจ์รามี่, เดนนี่ แลนด์ซาท และ ไบรอัน รุยซ์ ดาวเตะ คอสตาริกา ลงมา เพื่อหวังเก็บแต้มกลับบ้านให้ได้

เริ่มเกมขึ้นมาในนาทีที่ 15 เป็น สเปอร์ ที่ได้โอกาสทักทายก่อน โดยเป็นจังหวะที่ ลูก้า โมดริช เปิดบอลไปให้กับ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจซัดเต็มข้อแต่โดน มิไฮลอฟ ปัดบอลออกหลังไปได้

น.37 ยังคงเป็น ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่ได้สับไกด้วยขวา จากการเปิดด้วยการโหม่งมาให้โดย ปีเตอร์ เคร้าช์ บอลพุ่งไปตรงตัว มิไฮลอฟ

น.39 สเปอร์ มาได้โอกาสขึ้นนำอย่างยิ่ง จากจังหวะที่ ปีเตอร์ วิสเกอร์โฮฟ ไปเหนี่ยว เคร้าช์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ ทำให้ เทอร์เย่ เฮาเก้ ตุลาการสนามจาก นอร์เวย์ ไม่รอช้า เป่าให้เป็นลูกโทษที่จุดโทษ ก่อนที่ ฟาน เดอ ฟาร์ท จะซัดเต็มข้อด้วยซ้าย แต่ทว่า นิโคเลย์ มิไฮลอฟ นายทวารชาว บัลแกเรีย ปัดบอลออกหลังไปได้ สเปอร์ พลาดโอกาสขึ้นนำเป็นอย่างยิ่ง

น.44 ฟาน เดอ ฟาร์ท มาได้โอกาสแก้ตัว หลังจากที่ได้จังหวะวอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มข้อ ระยะประมาณ 18 หลา หน้ากรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย จากจังหวะสวนกลับ แต่ก็ไม่ผ่านมือ มิไฮลอฟ ที่กระโดดทุบบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้เพิ่มเติมในช่วงครึ่งแรก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยังคงเสมอกับ ทเวนเต้ อยู่ 0-0

และเพียงแค่สองนาทีหลังจากเริ่มต้นครึ่งหลังขึ้นมา เป็น สเปอร์ ที่ได้ประตูขึ้นนำจนได้ ในนาทีที่ 47 จากจังหวะที่ ฮัดเดิลสตัน โยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น เคร้าช์ ที่กระโดดโหม่งชงไปให้ ฟาน เดอ ฟาร์ท หน้าปากประตู จัดการแต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนวอลเลย์ด้วยซ้ายตูมเดียว บอลพุ่งเข้าเสาไกลไปอย่างสวยงาม สเปอร์ ขึ้นนำ ทเวนเต้ จนได้ 1-0

หลังจากนั้นอีกเพียงแค่สามนาที น.50 สเปอร์ มาได้ลูกโทษที่จุดโทษอีกครั้ง จากจังหวะที่ โรเบร์โต้ โรซาเลส ไปเข้าสกัดบอลช้าใส่ขา แกเร็ธ เบล เต็มข้อ เทอร์เย่ เฮาเก้ เป่าให้เป็นลูกโทษทันที และคราวนี้เป็นหน้าที่ของ พาฟลิวเชนโก้ ที่ซัดด้วยขวาไม่พลาด ทำให้ สเปอร์ ออกนำ ทเวนเต้ อย่างรวดเร็ว ในช่วงต้นครึ่งหลัง 2-0

น.56 ทเวนเต้ ยังไม่ยอมตายง่ายๆ เมื่อมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะได้เปิดลูกฟรีคิกเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะชุลมุนไปสองจังหวะแล้วบอลไหลมาเข้าทาง นาเซอร์ ชัดลี่ ดาวเตะตัวสำรองชาว เบลเยี่ยม ดีดบอลด้วยขวาเข้าเสาสองไป ทำให้ ทเวนเต้ ไล่มาเป็น 1-2

น.61 ฟาน เดอ ฟาร์ท ครบทุกรสชาติ! เมื่อมาโดนไล่ออก หลังจากได้รับใบเหลืองที่สองจากการเข้าไปกระโดดยันใส่ โรเบร์โต้ โรซาเลส ทำให้ต้องเดินออกจากสนามก่อนใครเพื่อน

น.64 หลังจากเหลือ 10 คนเพียงแค่ 3 นาที สเปอร์ ก็มาได้จุดโทษที่สามของเกม จากจังหวะที่ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ได้สับไกหน้ากรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งลอยไปโดนแขน นิคกี้ คุยเปอร์ ที่กระโดดขวางบอลแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ผู้ตัดสินก็เป่าให้เป็นลูกโทษ พาฟลิวเชนโก้ รับหน้าที่ซัด และก็ยิงด้วยขวาเข้าไปไม่พลาด ทำให้ สเปอร์ ที่เหลือ 10 ตัว ออกนำห่าง เอฟซี ทเวนเต้ 3-1

น.85 สเปอร์ มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ จาก แกเร็ธ เบล ที่หลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดด้วยซ้ายผ่านมือ นิโคเลย์ มิไฮลอฟ เข้าไป ให้ สเปอร์ นำห่าง 4-1

หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมกันได้ จบเกม สเปอร์ 10 ตัว เก็บสามแต้มได้สำเร็จ เมื่อถล่มเอาชนะ ทเวนเต้ ไป 4-1

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ : 4-4-2
เฮเรลโญ่ โกเมส (ผู้รักษาประตู), อลัน ฮัตตัน, เล็ดลี่ย์ คิง, เซบาสเตียน บาสซง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, ทอม ฮัดเดิลสตัน, ลูก้า โมดริช (อารอน เลนน่อน 82), ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, แกเร็ธ เบล, ปีเตอร์ เคร้าช์ (เจอร์เมน จีนาส 66), โรมัน พาฟลิวเชนโก้ (ร็อบบี้ คีน 89)
ผู้จัดการทีม : แฮร์รี่ เร็ดแน็ปป์

เอฟซี ทเวนเต้ : 4-2-3-1
นิโคเลย์ มิไฮลอฟ (ผู้รักษาประตู), โรเบร์โต้ โรซาเลส, ดักลาส เตเซียร่า, ปีเตอร์ วิสเกอร์โฮฟ, นิคกี้ คุยเปอร์, ธีโอ ยานส์เซ่น, วูต บราม่า, เอเมียร์ บาจ์รามี่ (นาเซอร์ ชัดลี่ 28), เดนนี่ แลนด์ซาท (ลุค เด ยองก์ 69), ไบรอัน รุยซ์, มาร์ค ยานโก้
ผู้จัดการทีม : มิเชล พรูดอมม์

ผู้ตัดสิน : เทอร์เย่ เฮาเก้ (นอร์เวย์)

สรุปผลการแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันพุธที่ 29 กันยายน 2553
กลุ่ม เอ
สเปอร์ส (อังกฤษ) 4-1 ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์)
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 4-0 แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน)
กลุ่ม บี
ฮาโปเอล เทลอาวีฟ (อิสราเอล) 1-3 ลียง (ฝรั่งเศส)
ชาลเก้ (เยอรมัน) 2-0 เบนฟิก้า (โปรตุเกส)
กลุ่ม ซี
บาเลนเซีย (สเปน) 0-1 แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 1-0 บูร์ซาสปอร์ (ตุรกี)
กลุ่ม ดี
รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 1-1 บาร์เซโลน่า (สเปน)
พานาธิไนกอส (กรีซ) 0-2 เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก)

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

MINI Countryman















โปรแกรมกีฬา วันที่ 29 / 09 / 2553


ต่างประเทศ

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง
กลุ่มเอ
01.45 น. สเปอร์ส (อังกฤษ) - ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์)
01.45 น. อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) - แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน)

กลุ่มบี
01.45 น. ฮาโปเอล เทลอาวีฟ (อิสราเอล) - ลียง (ฝรั่งเศส)
01.45 น. ชาลเก้ (เยอรมัน) - เบนฟิก้า (โปรตุเกส)

กลุ่มซี
01.45 น. บาเลนเซีย (สเปน) - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
01.45 น. กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) - บูร์ซาสปอร์ (ตุรกี)

กลุ่มดี
23.30 น. รูบิน คาซาน (รัสเซีย) - บาร์เซโลน่า (สเปน)
01.45 น. พานาธิไนกอส (กรีซ) - เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก)

ฟุตบอล บราซิเลียโร่ลีก บราซิล
05.30 น. พัลเมรัส - อินเตอร์นาซิอองนาล
05.30 น. ครูเซโร่ - อัตเลติโก โกเอียเนียนเซ่
05.30 น. เกรมิโอ พรูเดนเต้ - กัวรานี่
05.30 น. อัต.พาราเนนเซ่ - คลับ วิตอเรีย
07.00 น. ฟลูมิเนนเซ่ - อาไว (เช้าวันพฤหัสฯ)
08.00 น. เซอร่า - อัต.มิเนโร่ (เช้าวันพฤหัสฯ)
08.00 น. โครินเธียนส์ - โบตาโฟโก (เช้าวันพฤหัสฯ)
08.00 น. เกรมิโอ - เซา เปาโล (เช้าวันพฤหัสฯ)

ฟุตบอล เมเจอร์ ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐอเมริกา
07.30 น. โคโลราโด ราปิดส์ - ฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน (เช้าวันพฤหัสฯ)
10.00 น. ซานโฮเซ่ เอิร์ธเคว็กส์ - ชิคาโก ไฟร์ (เช้าวันพฤหัสฯ)

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ มาเลเซียน โอเพ่น ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

เทนนิสดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ แพน แปซิฟิก โอเพ่น ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ในประเทศ

ฟุตบอล สปอนเซอร์ ไทย พรีเมียร์ลีก 2010 เลกสอง
- ที่สนาม บุณยะจินดา
16.30 น. อินทรีเพื่อนตำรวจ - พัทยา ยูไนเต็ด
- ที่สนาม กีฬากลาง จ.ระยอง
17.00 น. ราชนาวี-ระยอง - แบงค็อก ยูไนเต็ด (FBSTV)
- ที่สนาม แพท สเตเดี้ยม
17.00 น. การท่าเรือไทย เอฟซี - ชลบุรี เอฟซี (ทรูสปอร์ต 6 - 122)
- ที่สนาม กีฬากลาง จ.พิจิตร
18.00 น. ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร - บางกอกกล๊าส เอฟซี (NBT19)
- ที่สนาม เทพหัสดิน
18.00 น. บีอีซี เทโรศาสน - ทีโอที-แคท เอฟซี
- ที่สนาม กีฬากองทัพบก
18.00 น. ทหารบก - เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี (SSTV)
- ที่สนาม ยามาฮ่า สเตเดี้ยม
19.00 น. เมืองทอง ยูไนเต็ด- โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี (T-Sport - 109)

ฟุตบอล ลีก ดิวิชั่น 1 2010 เลกสอง
- ที่สนาม กีฬากลาง จ.ปราจีนบุรี
16.00 น. ปราจีนบุรี เอฟซี - ขอนแก่น เอฟซี
- ที่สนาม ลาดกระบัง 54
16.00 น. สุวรรณภูมิ ศุลกากร เอฟซี - นราธิวาส เอฟซี
- ที่สนาม ม.รัตนบัณฑิต
16.00 น. อาร์แบค เอฟซี - จุฬา ยูไนเต็ด
- ที่สนาม เทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง
16.00 น. ไทย-ฮอนด้า - ราชประชา-นนทบุรี
- ที่สนาม ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน
16.30 น. นครปฐม เอฟซี - สงขลา เอฟซี
- ที่สนาม กีฬากลาง จ.จันทบุรี
16.30 น. จันทบุรี เอฟซี - สุพรรณบุรี เอฟซี
- ที่สนาม ร.ร. บ้านศรีมหาราช
19.00 น. ศรีราชา เอฟซี - แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่ อิมแพค เมืองทอง เวลา 10.00 น.
ประเภทชายเดี่ยว รอบสอง
ฟลอร็องต์ แซร์ร่า (ฝรั่งเศส) - กิลเยร์โม่ การ์เซีย-โลเปซ (สเปน)
เจอร์เก้น เมลเซอร์ (ออสเตรีย, มือ 3) - ดูดี้ เซล่า (อิสราเอล)
เบนจามิน เบ็คเกอร์ (เยอรมัน) - มิสชา ซเวเรฟ (เยอรมัน)
เออร์เนสท์ส กุลบิส (ลัตเวีย, มือ 4) - ไรเนอร์ ชู้ตเลอร์ (เยอรมัน)
ธีเอโม เดอ บัคเกอร์ (เนเธอร์แลนด์, มือ 6) - ดาเนี่ยล บรันด์ส (เยอรมัน)

ประเภทชายคู่ รอบแรก
โคลิน เฟลมิ่ง/เคน สคุปสกี้ (สหราชอาณาจักร) - ไซม่อน แอสเปลิน/พอล แฮนลีย์ (สวีเดน/ออสเตรเลีย, มือ 3)
สนฉัตร/สรรค์ชัย รติวัฒน์ (ไทย) - คริสโตเฟอร์ คาส/วิคเตอร์ โทรอิคกี้ (เยอรมัน/สหราชอาณาจักร)
มาร์โก้ ชิวดิเนลลี่/กิลเยร์โม่ การ์เซีย-โลเปซ (สวิส/สเปน) - มาร์ก โลเปซ/ดาบิด มาร์เรโร่ (สเปน)

ประเภทชายคู่ รอบสอง
โจนาธาน เออร์ลิช/เจอร์เก้น เมลเซอร์ (อิสราเอล/ออสเตรีย, มือ 4) หรือ ไบรอัน แบ็ตติสโตน/อันเดรียส ซิลเจสตรอม (สหรัฐ/สวีเดน) - มิคาอิล คูคุชคิน/ฟลอร็องต์ แซร์ร่า (คาซัคสถาน/ฝรั่งเศส) หรือ มิชาเอล โคห์ลมันน์/ยาร์คโค่ นีมิเน่น (เยอรมัน/ฟินแลนด์)

ยิงเป้าบินไทยแลนด์ โอเพ่น ที่สนามยิงเป้าบิน หัวหมาก เวลา 09.30 น.

18.30 น. มวยไทย ศึกวันมิตรชัย เวทีราชดำเนิน

FAรอบรองชลฯบุกทหารบก นาวีเฝ้ารังซดกิเลน-ตราชฎา


FAรอบรองชลฯบุกทหารบก นาวีเฝ้ารังซดกิเลน-ตราชฎา

จับติ้วเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ ได้ลุ้นดรีมแมตช์รอบชิงแน่นอน เมื่อ ชลบุรี กับ เมืองทอง ไม่เจอกันก่อนกำหนด ทัพฉลาม จะบุกไปเยือน ทหารบก ขณะที่ กิเลนผยอง ถ้าผ่าน ราชประชา จะไปลุยถ้ำนิลมังกร ของราชนาวี ระเบิดแข้ง 30 ต.ค.

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.53 ที่ห้องประชุมสมาคมฯ ฟุตบอล คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ คุณองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม, คุณสรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต มีเดีย แมเนจเม้นท์ จำกัด, คุณอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และ คุณธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้อำนวยการทั่วไป บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด เป็นประธานในการจับสลากประกบคู่ฟุตบอล มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ 2010 รอบรองชนะเลิศ
โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบนี้ประกอบด้วย ชลบุรี เอฟซี, ทหารบก, ราชนาวี ระยอง ส่วนอีกคู่ที่ยังไม่ทำการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ราชประชา นนทบุรี ซึ่งผลการประกบคู่ปรากฏว่า ราชนาวี ระยอง จะได้เล่นในบ้านพบ ผู้ชนะระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ราชประชา นนทบุรี อีกคู่ ทหารบก จะเปิดบ้าน รับ ชลบุรี เอฟซี โดยทั้งสองคู่จะแข่งขันในวันเสาร์ที่ 30 ต.ค.53 ส่วนรอบชิงชนะเลิศจะเล่นกันในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.53

หลังจบพิธีจับสลาก คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม กล่าวว่า "สำหรับฟุตบอลมูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ ซึ่งกำลังเดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ ในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แม้จะเป็นเพียงปีที่ 2 คงต้องขอขอบคุณแฟนบอลที่ให้การตอบรับอย่างดี โดยมูลนิธิไทยคมเอง ก็มีกิจกรรมตอบแทนคือการเปิดคลีนิกสอนฟุตบอลให้เด็กเยาวชนที่ดำเนินการมาตลอด ซึ่งในเกมระหวาง เมืองทอง กับ ราชประชา และในรอบรองชนะเลิศ ก็จะมีขึ้นอีกอย่างแน่นอน"

ขณะที่ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไป เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดเผยถึงผลการจับสลาก ว่า "เป็นครั้งแรกของเมืองทองในปีนี้ที่จะได้เล่นนอก ยามาฮ่า สเตเดี้ยม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องโฟกัสไปที่เกมกับราชประชาก่อน คงยังไม่มองไปถึงการเยือนราชนาวี ซึ่งเราคิดว่าไม่ใช่งานง่ายทั้งคู่

ส่วน จีระศักดิ์ โจมทอง ผู้อำนวยการประชาสัมพันธ์ ชลบุรี เอฟซี เผยว่า "การเจอกับ ทหารบกไม่ใช่งานง่าย พวกเขาเคยชนะ บุรีรัมย์ มาแล้ว แต่ต้องยอมรับว่ายังดีกว่าเจอเมืองทองในรอบนี้ ซึ่งเราหวังมากกับถ้วยเอฟเอ คัพ อย่างน้อยคงต้องเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ถ้าจะให้ดีต้องคว้าแชมป์ไปเลย เพื่อการันตีการกลับไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชีย

เชลซีอัดมาร์กเซยสบาย2-0 เจที,นิโก้สอยรั้งฝูงกลุ่มเอฟ


เชลซีอัดมาร์กเซยสบาย2-0 เจที,นิโก้สอยรั้งฝูงกลุ่มเอฟ

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยังแจ่ม หลังเปิดบ้านอัด "มาร์กเซย" 2-0 เทอร์รี่ ควง อเนลก้า ซัดคนละเม็ด ทำให้มีอยู่ 6 แต้มเต็ม จากสองนัด รั้งฝูงกลุ่ม เอฟ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2010-2011

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2010-2011 ประจำวันอังคารที่ 28 กันยายน 2553 เป็นการแข่งขันในนัดที่สอง ในรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้าย กลุ่ม เอฟ ระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในกรุง ลอนดอน ประเทศ อังกฤษ พบกับ "โอเอ็ม" โอลิมปิก มาร์กเซย ตัวแทนจาก ฝรั่งเศส
วันนี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หลังจากพ่ายแพ้มาสองนัดติดกันทั้งในบอลถ้วย ลีกคัพ ต่อ นิวคาสเซิ่ล 3-4 และ แพ้ แมนฯ ซิตี้ ในเกมลีก 0-1 "อันเช่" คาร์โล อันเชล็อตติ จัดตัวผู้เล่นลงสนามแบบไม่ฟูลทีมนัก ด้วยระบบ 4-3-3 โดยในแดนหน้า ไม่มี ดร็อกบา ที่ยังคงต้องชดใช้โทษแบนมาจากเกม "ยูซีแอล" เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ กาแอล กากูต้า กองหน้าดาวรุ่งได้ลงสนามมาเล่นแทนที่ โดยจะประสานงานร่วมกับ นิโกล่าส์ อเนลก้า และ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ส่วนในแดนกลาง ยูริ ซีร์คอฟ ได้รับโอกาสลงเล่นขับเคลื่อนเกมแทนที่ แลมพาร์ด ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บรบกวนเช่นเดียวกับ ยอสซี่ เบนายูน และ โซโลม็อง กาลู ที่เจ็บมาตั้งแต่เกมลีกคัพ โดยกองกลางอีกสองคนเป็นหน้าที่ของ ไมเคิ่ล เอสเซียง และ จอห์น โอบี มิเคล เหมือนเคย

ส่วน โอลิมปิก มาร์กเซย ของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ยอดเทรนเนอร์ของ "โอเอ็ม" มีกำลังใจมากพอสมควรหลังเก็บชัยในลีกได้ 2 นัดติดต่อกัน นัดนี้จัดทีมลงมาในระบบ 4-3-3 หวังมาเก็บแต้มกลับถิ่นให้ได้ โดยสามประสานในแนวรุกเป็น โลอิก เรมี่, อองเดร ปิแอร์ ฌีญัก และ บรันเดา ส่วนตัวเชื่อมเกม เป็นหน้าที่ของ ลูโช่ กอนซาเลซ และ เบอนัวต์ เชย์รู ส่วน เอดูอาร์ด ซิสเซ่ ยืนเป็นกองกลางตัวรับ อยู่หลังกองหลังที่มี กาเบรียล ไอน์เซ่ และ สเตฟาน เอ็มเบีย ยืนเป็นตัวหลัก

เริ่มเกมขึ้นมาไม่นาน เพียงแค่นาทีที่ 7 เท่านั้น เชลซี ก็มาได้ประตูขึ้นนำ มาร์กเซย อย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุมทางด้านกราบขวา กากูต้า เปิดมาที่เสาแรก และเป็น จอห์น เทอร์รี่ ที่วิ่งเข้ามาสะกิดบอลเปลี่ยนทางเข้าเสาแรกไป

น.15 เชลซี มีลุ้นนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ อเนลก้า ได้ซัดเหน่งๆเต็มข้อแต่บอลพุ่งไปเข้าซอง สตีฟ ม็องด็องด้า นายทวารทีมเยือน

น.26 มาร์กเซย เริ่มโต้ตอบ เจ้าบ้านได้บ้าง จากจังหวะที่ ทำเกมต่อบอลกันขึ้นมาหลายจังหวะ ก่อนที่จะเป็น อองเดร ปิแอร์ ฌีญัก กองหน้าตัวเป้าจะป้ายบอลมาที่แถวสอง เป็น เบอนัวต์ เชย์รู วิ่งเข้ามากดด้วยขวาเต็มข้อ บอลลอยข้ามคานไปนิดเดียว

น.28 เชลซี มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ เอสเซียง ได้บอลทางกราบขวา ก่อนที่จะเปิดเข้าไปในบริเวณกรอบเขตโทษ และเป็นการแฮนด์บอลของ สเตฟาน เอ็มเบีย และ ฟร้องค์ เดอ บลีกแกร์ ตุลาการสนามจาก เบลเยียม ไม่รอช้าเป่าเป็นลูกโทษแถมใบเหลืองให้ เอ็มเบีย อีกด้วย และเป็น อเนลก้า ที่รับหน้าที่สังหารด้วยวิธีเลือดเย็น เดินสองสามก้าวก่อนจะแปบอลด้วยขวาเข้าไปอย่างง่ายดาย ทำให้ เชลซี ออกนำห่าง โอลิมปิก มาร์กเซย 2-0

หลังจากนั้น ในช่วงครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพิ่มเติมเป็นชิ้นเป็นอัน เชลซี ออกนำ โอลิมปิก มาร์กเซย อยู่ 2-0

เริ่มต้นครึ่งหลังขึ้นมา ทั้งสองทีมยังไม่สามารถทำเกมไปถึงพื้นที่สุดท้ายของฝั่งตรงข้ามได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง บอลส่วนใหญ่จะถูกครอบครองบริเวณกลางสนาม

จนถึงนาทีที่ 59 ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ อยู่เฉยไม่ได้ ต้องเปลี่ยนตัวถึงสองตัวด้วยกัน โดยส่งเอา มาติเยอ วัลบูเอน่า และ อังเดร อายิว สตาร์ชาว กาน่า ลงมาเล่นแทนที่ เบอนัวต์ เชย์รู และ อองเดร ปิแอร์ ฌีญัก ที่เล่นไม่ออกเลยในนัดนี้

น.62 เป็น เชลซี ที่เปลี่ยนตัวบ้างเป็นคนแรก โดยเป็นการแพ็คกลางให้แน่นหนามากขึ้น โดยเอา รามิเรส ลงไปเล่นแทนที่ กาแอล กากูต้า

หลังจากนั้น เชลซี เปลี่ยนตัวอีกสองตัวเป็นการให้ผู้เล่นดาวรุ่งลงมาเล่นกันบ้าง โดยเอา ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงมาแทนที่ ยูริ ซีร์คอฟ ในนาทีที่ 73 ส่วนอีกคนถอดเอา จอห์น โอบี มิเคล ออกและส่ง โจชัว แม็คเอชราน ลงมาเล่นแทนที่ ในนาทีที่ 88

จบเกม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้าน ถล่ม โอลิมปิก มาร์กเซย ไปได้ 2-0 ทำให้เก็บได้ 6 แต้มเต็ม รั้งจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ เช่นเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
เชลซี : 4-3-3
ปีเตอร์ เช็ก (ผู้รักษาประตู), บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเคล (โจชัว แม็คเอชราน 88), ยูริ ซีร์คอฟ (ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 73), กาแอล กากูต้า (รามิเรส 62), นิโกล่าส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า
ผู้จัดการทีม : คาร์โล อันเชล็อตติ (อิตาลี)

โอลิมปิก มาร์กเซย : 4-3-3
สตีฟ ม็องด็องด้า (ผู้รักษาประตู), ซูเลมาน ดิยาวาร่า, กาเบรียล ไอน์เซ่, ชาร์ลส์ กาโบเร่, สเตฟาน เอ็มเบีย, เอดูอาร์ด ซิสเซ่, ลูโช่ กอนซาเลซ, เบอนัวต์ เชย์รู (อังเดร อายิว 59), โลอิก เรมี่, อองเดร ปิแอร์ ฌีญัก (มาติเยอ วัลบูเอน่า 59), บรันเดา
ผู้จัดการทีม : ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ (ฝรั่งเศส)

ผู้ตัดสิน : ฟร้องค์ เดอ บลีกแกร์ (เบลเยียม)

สรุปผลการแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำวันอังคารที่ 28 กันยายน 2553
กลุ่ม อี
เอฟซี บาเซิ่ล (สวิส) 1-2 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
โรม่า (อิตาลี) 2-1 ซีเอฟอาร์ คลูช (โรมาเนีย)
กลุ่ม เอฟ
สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) 3-0 เอ็มเอสเค ซิลิน่า (สโลวาเกีย)
เชลซี (อังกฤษ) 2-0 มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)
กลุ่ม จี
โอแซร์ (ฝรั่งเศส) 0-1 เรอัล มาดริด (สเปน)
อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 1-1 เอซี มิลาน (อิตาลี)
กลุ่ม เอช
ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) 1-3 อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
บราก้า (โปรตุเกส) 0-3 ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน)

ผีทรุด!สโคลส์เดี้ยงพัก10วัน หมูรูนหนักกว่าวืดซด3สัปดาห์


ผีทรุด!สโคลส์เดี้ยงพัก10วัน หมูรูนหนักกว่าวืดซด3สัปดาห์

กองเชียร์ "ผีแดง" เซ็งเป็ด "ท่านเซอร์" คอนเฟิร์ม 2 แข้งตัวหลักนัดกันเดี้ยง สโคลส์ น่องตึงพัก 10 วัน ส่วน รูนี่ย์ ดวงแตกต้องใช้เวลาพักฟื้นอาการเดี้ยงที่ข้อเท้าถึง 3 สัปดาห์

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยข่าวร้ายแก่กองเชียร์ "อสูรแดง" เมื่อจะหมดสิทธิ์ใช้บริการ พอล สโคลส์ กองกลางจอมเก๋า และ เวย์น รูนี่ย์ ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานจากเกมที่บุกไปทำได้แค่เสมอ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 2-2 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา

ข่าวร้ายดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากปาก "ท่านเซอร์" ก่อนนำทัพ "ผีแดง" บุกไปทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 กับ บาเลนเซีย ถึงประเทศ สเปน ในวันพุธ ที่ 29 ก.ย. นี้ โดยในรายของ สโคลส์ นั้น คาดว่า จะต้องใช้เวลาฟื้นฟูสภาพร่างกายราว 10 วัน จากอาการกล้ามเนื้อตึงที่บริเวณต้นขา

ขณะที่ในรายของ รูนี่ย์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้านั้น ถือว่าหนักหนาสาหัสกว่า โดยคาดว่า น่าจะใช้เวลาพักรักษาตัวนานถึง 3 สัปดาห์ ส่งผลให้เจ้าตัวจะพลาดเกม "ยูซีแอล" กลางสัปดาห์นี้ ต่อด้วยเกมลีกที่จะบุกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ รวมถึงศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป กับ ทีมชาติ อังกฤษ ที่จะมีคิวปะทะ มอนเตเนโกร ในวันที่ 13 ต.ค. นี้ อีกด้วย

ลูคัสอาจอำลาหงส์เเดง มาลาก้า,ยูเว่อ้าเเขนรับ


ลูคัสอาจอำลาหงส์เเดง มาลาก้า,ยูเว่อ้าเเขนรับ

มาลาก้า เเละ ยูเวนตุส พร้อมเปิดสงครามเเย่งชิงตัว ลูคัส หลังตกเป็นเพียงเเค่ตัวสำรองของ ลิเวอร์พูล นับตั้งเเต่ โพลเซ่น เเละ เมยเรเลส ย้ายร่วมถิ่น แอนฟิลด์

ลูคัส เลว่า กองกลางชาวเเซมบ้าของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมฟอร์มตกเเห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีลุ้นที่จะได้เก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ ในเร็ววันนี้ หลังจาก "ทอล์คสปอร์ต" สื่อกีฬาชื่อดังของยุโรป รายงานว่า เจ้าตัว กำลังได้รับความสนใจอย่างจริงจังจากทั้ง มาลาก้า จากศึก ลา ลีกา สเปน เเละ ยูเวนตุส ยอดทีมเมืองมะกะโรนี

มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติ บราซิล วัย 23 ปี ย้ายจาก เกรมิโอ บนลีกบ้านเกิด มาค้าเเข้งยังถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อปี 2007 ด้วยค่าตัวประมาณ 6 ล้านปอนด์ (285 ล้านบาท) ปัจจุบัน เจ้าตัว ลงสนามรับใช้ "หงส์แดง" ไปแล้วทั้งสิ้น 131 นัด ยิงได้ 6 ประตู เเต่ทว่านับตั้งเเต่การย้ายเข้ามาของ คริสเตียน โพลเซ่น เเละ ราอูล เมยเรเลส ก็ส่งผลให้ ลูคัส ต้องตกเป็นเพียงเเค่ตัวสำรองเท่านั้น

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก


ข่าวฟุตบอล แม้จะเป็นช่วงมิดวีกแต่ก็ยังคงมีเกมลูกหนังมาให้ทุกท่านได้ตามลุ้นตามเชียร์กันอย่างจุใจเช่นเคยแถมเป็นถ้วยใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนนี้มีลุ้นคู่ไหนกันบ้างเชิญติดตามกันได้เลย

เชลซี (อังกฤษ) เวลา 01.45 น.
โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)
เรตไทย: เชลซี ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง

เชลซีเริ่มเป๋จนพ่ายสองเกมล่าสุดต่อนิวคาสเซิ่ลกับแมนฯ ซิตี้ ขณะเดียวกันสภาพทีมยังไม่สมบูรณ์ดีนัก ดิดีเยร์ ดร็อกบา ติดโทษแบน ส่วน แฟรงค์ แลมพาร์ด กับ ซาโลมง กาลู ไม่ฟิตสมบูรณ์ ส่วนทางด้าน มาร์กเซย มาเยือนด้วยความมั่นใจหลังการฟิตกลับมาของ ซูเลย์มาน ดิยาวาร่า ส่วนแกนหลักยังอยู่กันครบทั้ง ลูโช่ กอนกอนซาเลซ,อองเดร ปิแอร์ ชีญัก หรือ โรอิก เรมี่ โดยเกมนี้ โอแอ็ม ต้องเน้นเป็นพิเศษหลังออกสตาร์ตด้วยการพ่าย สปาร์ตัก มอสโก คาถิ่น แม้ชื่อชั่นจะดูเป็นรองพอสมควร แต่ มาร์กเซย น่าจะบุกมาสู้ได้แบบสนุก จึงน่าตามเชียร์ทีมเยือน

ฟันธง: รองมาร์กเซย

สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) เวลา 23.00น.
เอ็มเอสเค ซิลิน่า (สโลวาเนีย)
เรตไทย: สปาร์ตัก มอสโก ต่อ หนึ่งลูก

สปาร์ตัก มอสโก ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการบุกไปโค่น มาร์กเซยนัดที่แล้ว โดยเกมนี้ทีมของ วาเลรี่ คาร์ปิน จะกลับมาเล่นในบ้านจึงเน้นเก็บ 3แต้ม โดยมีแข้งบราซิลเลี่ยนเป็นตัวทีเด็ดในแนวรุกทั้ง อารี ดา ซิลวา แฟร์เรยร่า,เวลลิงตัน,อเล็กซ์ ราฟาเอล หรือ อิ๊บสัน บาร์เรโต้ ดา ซิลวา น่าจะรวมพลังสร้างความกดดันให้แนวรับทีมเยือนได้ดี แม้ ซิลิน่า จะมาเยือนด้วยสภาพทีมสมบูรณ์ แต่ทีมดังสโลวาเนียเล่นเกมรับอ่อนปวกเปียกเสียประตูง่ายจึงน่าตามเชียร์ สปาร์ตัก มอสโก

ฟันธง: ต่อ สปาร์ตัก มอสโก

บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) เวลา 01.45น.)
บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
เรตไทย: บาเยิร์น มิวนิค ต่อครึ่งลูก

บาเยิร์น มิวนิค ไม่มีทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน กับ ฟร้องค์ ริเบรี่ ทำให้แนวรุกลดความน่ากลัวลงไปเยอะ แถมฟอร์มช่วงที่ผ่านมาก็แย่ แนวรุกทำประตูได้น้อยเกมรับยังหละหลวม ขณะที่ บาเซิ่ล ต้องการคะแนนหลังออกสตาร์ตด้วย การพ่ายแพ้ต่อคลูชเมื่อสองสัปดาห์ก่อน แนวรุกของทีมสวิสฯ ยังอันตรายทั้ง อเล็กซานเดอร์ ฟราย,มาร์โก สเตรลแลร์ หรือ เชอร์ดาน ชาคิรี ซึ่งน่าจะสร้างความกดดันให้แนวรับทีมเสือใต้ได้ดีทีเดียว แม้ชื่อชั้นจะดูเป็นรองพอสมควร แต่บาเซิ่ล แกร่งในบ้านจึงมีโอกาสยันบาเยิร์นที่กำลังเป๋อยู่

ฟันธง: รองบาเซิ่ล

โรม่า (อิตาลี) เวลา 01.45น.
ซีเอฟอาร์ คลูช (โรมาเนีย)
เรตไทย: โรม่า ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง

โรม่าลงสนามด้วยความมั่นใจหลังคว้าชัยชนะนัดแรกด้วยการล้มอินเตอร์เมื่อวันเสาร์ แถมสภาพทีมลงมากขึ้นหลังการฟิตกลับมาของ ยอร์น อาร์เน่ รีเซ่ และ ฟิลิปป์ เม็กแซส ขณะที่แนวรุกยังอยู่กันครบทั้งฟรานเชสโก้ ต๊อตติ,มาร์โก บอร์ริเอลโล่ หรือ มีร์โก วูชินิช ส่วนคลูช มาเยือนด้วยสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อม แถมยังเคยบุกมาสอยโรม่าถึงถิ่นเมื่อ 2ปีก่อน ทว่าชื่อชั้นของทีมเยือนจากโรมาเนียยังเป็นรองเยอะ เกมนี้เห็นที่จะรอดกลับออกมายาก

ฟันธง: ต่อโรม่า

โอแซร์ (ฝรั่งเศส) เวลา 01.45น.
เรอัล มาดริด (สเปน)
เรตไทย: เรอัล มาดริด ต่อหนึ่งลูก

โอแซร์ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น แถมยังไม่มี อองโตนี่ เลอ ตัลเล็ก ซึ่งเจ็บข้อเท้าจนต้องพักยาว 8สัปดาห์ ขณะที่ อิเรเนอุสซ์ เยเลน ยังมีปัญหาที่หัวเข่า สภาพความพร้อมค่อนข้างเป็นรอง ทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่พกอาวุธหนักในแนวรุกมาแบบเต็มพิกัดทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้,กอนซาโล่ อิกวาอิน หรือ เมซุต โอซิล แม้ ทีมชุดขาวจะมีสถิติมาเยือนฝรั่งเศสค่อนข้างแย่ ขณะเดียวกันโอแซร์ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่เล่นในถิ่นได้ดี แต่สภาพทีมมีปัญหา แถมฟอร์มที่ผ่านมายังแย่จึงไม่น่าจะต้านทีมของมูรินโญ่ไหว

ฟันธง: ต่อเรอัล มาดริด

อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) เวลา 01.45
เอซี มิลาน (อิตาลี)
เรตไทย: เสมอ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม

อาแจ็กซ์ดีขึ้นแน่เมื่อทั้ง หลุยซ์ ซัวเรซ กับ ยานแฟร์ตอนเก้น พ้นโทษแบนหวนคืนสู่ทีม ขณะที่มิลานมาเยือนโดยไม่มี อเล็กซานเดร ปาโต้ กับ มัสซิโม อัมโบรซินี่ แม้ทีมเยือนจะมีแนวรุกอันตรายอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช,โรนัลดินโญ่ รวมถึงโรบินโญ่ แต่ฟอร์มนอกบ้านยังขาดความแน่นอน นักเตะหลายรายอายุค่อนข้างเยอะอาจเร่งไม่ขึ้นในช่วงท้ายเกม แถมนักเตะอาแจ็กซ์ส่วนใหญ่ทั้งสดและหนุ่มแน่นกว่าน่าจะบดกับทีมเยือนได้แบบสนุกตลอด 90นาที มองว่าอาแจ็กซ์จะไม่แพ้ในเกมนี้และมีโอกาสเบียดเอาชนะมิลานที่ยังไม่ลงตัวได้เช่นกัน

ฟันธง: ต่อ อาแจ็กซ์

ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) เวลา 01.45น.
อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
เรตไทย: อาร์เซน่อล ต่อ ครึ่งควบ

อาร์เซน่อลเสียรังวัดพอสมควรหลังการพ่ายแพ้เวสต์บรอมเมื่อวันเสาร์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการบาดเจ็บของแข้งหลักอย่าง เชส ฟาเบรกาส,ธีโอ วัลค็อคค์,โรบิน ฟาน เพอร์ซี่,นิคลาส เบนท์เนอร์ กับ โธมัส แฟร์ มาเล่น แถมสภาพจิตใจยังย่ำแย่ ขณะที่ ปาร์ติซานนอกจากจะได้เปรียบที่เล่นในรังแล้วยังลงสนามด้วยความพร้อมสมบูรณ์ทุกขุมกำลังน่าจะสร้างความกดดันแนวรับทีมปืนโตได้ดี โดยทีมเซิร์บน่าจะเปิดเกมสู้กับทีมปืนโตได้แบบไม่เป็นรองและมีโอกาสลุ้นแบ่งแต้มเป็นอย่างน้อย

ฟันธง: รองปาร์ติซาน เบลเกรด

สปอร์ติ้ง บราก้า (โปรตุเกส) เวลา 01.45น.
ชัคเตอร์ โดเนทส์ค
เรตไทย: บราก้า ต่อ เสมอควบครึ่ง

บราก้าต้องเน้นเกมรุกเพื่อคว้าชัยชนะจากเกมนี้เพียงสถานเดียวหากต้องการลุ้นเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาต์สภาพทีมบราก้าค่อนข้างสมบูรณ์ แถมยังได้เปรียบที่เล่นในรังน่าจะเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าทีมเยือนชัคเตอร์ ที่เล่นนอกบ้านไม่ค่อยดี แถมยังมาเยือนโดยไม่มี ดมิโตร ชีรินสกี้ กองหลังคนสำคัญที่ไม่ฟิต แม้ทีมเยือนจะวางแผนมาเล่นแบบรัดกุม แต่บราก้ามีโอกาสเบียดเข้าป้ายได้ตามเป้า

ฟันธง: ต่อ บราก้า

โปรแกรมกีฬา วันที่ 28 / 09 / 2553


ต่างประเทศ

ฟุตบอล ยู-19 ปี ชิงแชมป์ยุโรป รอบคัดเลือก
กลุ่ม 2
17.00 น. สกอตแลนด์ - ลิกเทนสไตน์
20.30 น. นอร์เวย์ - เอสโตเนีย

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง
กลุ่มอี
01.45 น. เอฟซี บาเซิ่ล (สวิส) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)
01.45 น. โรม่า (อิตาลี) - ซีเอฟอาร์ คลูช (โรมาเนีย)

กลุ่มเอฟ
23.30 น. สปาร์ตัก มอสโก (รัสเซีย) - เอ็มเอสเค ซิลิน่า (สโลวาเกีย)
01.45 น. เชลซี (อังกฤษ) - มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) (ช่อง 7)

กลุ่มจี
01.45 น. โอแซร์ (ฝรั่งเศส) - เรอัล มาดริด (สเปน) (ช่อง 3)
01.45 น. อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) - เอซี มิลาน (อิตาลี)

กลุ่มเอช
01.45 น. ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย) - อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
01.45 น. บราก้า (โปรตุเกส) - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน)

ฟุตบอล เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ
01.45 น. เบิร์นลี่ย์ - ฮัลล์
01.45 น. คาร์ดิฟฟ์ - คริสตัล พาเลซ
01.45 น. โคเวนทรี - ดอนคาสเตอร์
01.45 น. ดาร์บี้ - มิดเดิ้ลสโบรช์
01.45 น. ลีดส์ - เปรสตัน
01.45 น. นอริช - เลสเตอร์
01.45 น. ฟอเรสต์ - เชฟฯ ยูไนเต็ด
01.45 น. พอร์ทสมัธ - บริสตอล ซิตี้
01.45 น. สคันธอร์ป - บาร์นสลี่ย์
01.45 น. วัตฟอร์ด - สวอนซี
01.45 น. เรดดิ้ง - อิปสวิช
01.45 น. ควีนส์ปาร์ก - มิลล์วอลล์

ฟุตบอล ลีก วัน อังกฤษ
01.45 น. บอร์นมัธ - เอ็กเซเตอร์
01.45 น. ไบรท์ตัน - เบรนท์ฟอร์ด
01.45 น. บริสตอล โรเวอร์ส - ทรานเมียร์
01.45 น. ชาร์ลตัน - มิลตัน คีนส์
01.45 น. โคลเชสเตอร์ - ดาเกนแน่ม
01.45 น. ฮาร์ทลี่พูล - คาร์ไลส์
01.45 น. เลย์ตัน โอเรียนท์ - วอลซอลล์
01.45 น. ปีเตอร์โบโร่ - นอตต์ส เคาน์ตี้
01.45 น. รอชเดล - ฮัดเดอร์ฟิลด์
01.45 น. เชฟฯ เว้นส์เดย์ - โอลด์แฮม
01.45 น. สวินดอน - พลีมัธ
01.45 น. โยวิล - เซาธ์แฮมป์ตัน

ฟุตบอล ลีก ทู อังกฤษ
01.45 น. เชลท์แน่ม - อ๊อกซ์ฟอร์ด
01.45 น. ครูว์ - แม็คเคิ่ลสฟิลด์
01.45 น. จิลลิ่งแฮม - เซาธ์เอนด์
01.45 น. เฮเรฟอร์ด - สตีฟเนจ
01.45 น. ลินคอล์น - เบอร์ตัน
01.45 น. มอร์แคมบ์ - บิวรี่
01.45 น. นอร์ทแธมป์ตัน - เชสเตอร์ฟิลด์
01.45 น. พอร์ท เวล - ชรูว์สบิวรี่
01.45 น. ร็อตเธอร์แฮม - แบรดฟอร์ด
01.45 น. สต็อคพอร์ท - แอคคริงตัน
01.45 น. ทอร์คีย์ - อัลเดอร์ช็อท
01.45 น. วีคอมบ์ - บาร์เน็ต

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ มาเลเซียน โอเพ่น ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

เทนนิสดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ แพน แปซิฟิก โอเพ่น ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ฤดูกาล 2010/2011 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามเวลาประเทศไทย (ASN - 108)
07.30 น. กรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส - ชิคาโก้ แบร์ส

บาสเกตบอล 2010 พีก เอบีเอ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศฮ่องกง
รอบชิงอันดับ 3
ไทยแลนด์ทิว (ไทย) - ฮ่องกง ออลสตาร์ (ฮ่องกง)

รอบชิงชนะเลิศ
ตงก๋วน นิว เซนจูรี่ (จีน) - เคแอล ดราก้อน (มาเลเซีย)

ในประเทศ

ฟุตบอล ลีก ดิวิชั่น 1 2010 เลกสอง
- ที่สนาม ปิโตรเลียม ระยอง
16.00 น. ปตท.-ระยอง - เชียงราย ยูไนเต็ด

เทนนิส เอทีพี ทัวร์พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่ อิมแพค เมืองทอง เวลา 10.00 น.
ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก
ดูดี้ เชล่า (อิสราเอล) - คอนสแตนติน คราฟชุค (รัสเซีย)
ไรเลอร์ เดอฮาร์ท (สหรัฐ) - มิคาอิล คูคุชคิน (คาซัคสถาน)
ไรเนอร์ ชู้ตเลอร์ (เยอรมัน) - ริคาร์โด้ เมลโล่ (บราซิล)
รูเบ็น บีเมลแมนส์ (เบลเยียม) - เฟรเดอริค นีลเซ่น (เดนมาร์ก)
ยาร์คโค่ นีมิเน่น (ฟินแลนด์) - ดนัย อุดมโชค
กิลเยโม่ การ์เซีย-โลเปซ (สเปน) - มิชาเอล แบร์เรอร์ (เยอรมัน)
โอลิวิเย่ร์ โรชูส์ (เบลเยียม) - ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร (อาร์เจนตินา)

ประเภทชายคู่ รอบแรก
โจนาธาน เออร์ลิช (อิสราเอล)/เจอร์เก้น เมลเซอร์ (ออสเตรีย) - ไบรอัน แบ็ตตี้สโตน (สหรัฐ)/อันเดรียส ซิลเจสตรอม (สวีเดน)
มิคาอิล คูคุชคิน (คาซัคสถาน)/ฟลอร็องต์ แซร์ร่า (ฝรั่งเศส) - มิชาเอล โคห์ลมันน์ (เยอรมัน)/ยาร์คโค่ นีมิเน่น (ฟินแลนด์)
เบนจามิน เบ็คเกอร์/มิชาเอล แบร์เรอร์ (เยอรมัน) - จูเลี่ยน โนวล์ (ออสเตรีย)/แอนดี้ แรม (อิสราเอล)

วอลเลย์บอล เฟดเดอร์บรอย เยาวชนชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 16
ที่โรงยิมเนเซียม จ.ราชบุรี
13.00 น. เวียดนาม - ออสเตรเลีย
15.00 น. มาเลเซีย - เมียนมาร์
17.00 น. อินโดนีเซีย - ไทย

18.30 น. มวยไทย ศึกเกียรติเพชร เวทีลุมพินี

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

โปรแกรมกีฬา วันที่ 27 / 09 / 2553


ต่างประเทศ

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
02.00 น. มาลาก้า - บียาร์เรอัล

ฟุตบอล ลีกาสอง เยอรมัน
01.15 น. ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ - โบคุ่ม

ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย บี อิตาลี
01.45 น. โมเดน่า - เตรสติน่า

ฟุตบอล ลีก เดอซ์ ฝรั่งเศส
01.30 น. เอวิยอง - บูโลญจน์

กอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ เดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่จอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (ทรูสปอร์ต 4 - 104)

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ มาเลเซียน โอเพ่น ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ประเภทชายเดี่ยว รอบแรก
มิชาล เพอร์ซีซิสนี่ (โปแลนด์) - ซานติอาโก้ กิรัลโด้ (โคลอมเบีย)
อเลฮานโดร ฟัลย่า (โคลอมเบีย) - เควิน แอนเดอร์สัน (แอฟริกาใต้)
เซอร์เก สตาคอฟห์สกี้ (ยูเครน) - ไมเคิ่ล รัสเซลล์ (นิวซีแลนด์)
หลู่ เยิน-ซุน (ไต้หวัน) - อังเดร กูลูเยฟ (รัสเซีย)
ซิ หยิว หมิง (มาเลเซีย) - ยูกิ บามบริ (อินเดีย)

เทนนิสดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ แพน แปซิฟิก โอเพ่น ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก
ชาฮาร์ เปียร์ (อิสราเอล) - ธีมีอา บาสซินสกี้ (นิวซีแลนด์)
บาร์โบร่า สตรายโคว่า (สาธารณรัฐเช็ก) - ซาร่า แอร์รานี่ (อิตาลี)
มาริยง บาร์กโตลี (ฝรั่งเศส) - ยานิน่า วิคเมเยอร์ (เบลเยียม)
ยาโรสลาว่า ชเวโดว่า (คาซัคสถาน) - คูรูมิ นาระ (ญี่ปุ่น)
นาเดีย เปโตรว่า (รัสเซีย) - โรแบร์ต้า วินชี่ (อิตาลี)
ลูซี่ ซาฟาโรว่า (สาธารณรัฐเช็ก) - วิคตอเรีย อซาเรนก้า (เบลารุส)
คิมิโกะ ดาเตะ ครูมม์ (ญี่ปุ่น) - มาเรีย ชาราโปว่า (รัสเซีย)
สเวตลาน่า คุซเน็ตโซว่า (รัสเซีย) - อั๊กเนส ซาเวย์ (ฮังการี)
โคโค่ แวนเดเว็กห์ (สหรัฐฯ) - คลาร่า ซาโคพาโลว่า (สาธารณรัฐเช็ก)
โอลก้า โกวอร์ตโซว่า (เบลารุส) - อั๊กเนียสก้า รัดวานสก้า (โปแลนด์)
จูเลีย จอร์เกส (เยอรมัน) - ดินาร่า ซาฟิน่า (รัสเซีย)
อเล็กซานดร้า ดุลเกรู (โรมาเนีย) - เอคาเทริน่า มาคาโรว่า (รัสเซีย)
อโลน่า บอนดาเรนโก้ (ยูเครน) - เยเลน่า ยานโควิช (เซอร์เบีย)
อลิซ่า เคลย์บาโนว่า (รัสเซีย) - อนา อิวาโนวิช (เซอร์เบีย)

อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ฤดูกาล 2010/2011 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามเวลาประเทศไทย (ASN - 108)
07.20 น. นิวยอร์ก เจ็ตส์ - ไมอามี่ ดอลฟินส์

ในประเทศ

เทนนิส เอทีพี ทัวร์พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น รอบแรก ที่ อิมแพค เมืองทอง เวลา 10.00 น.
ประเภทชายเดี่ยว
คอนสแตนติน คราฟชุค (รัสเซีย) - ดิมิทรี ตูร์ซูนอฟ (รัสเซีย)
ไรเลอร์ เดอฮาร์ท (สหรัฐ) - อเล็กซ์ โบโกโมลอฟ จูเนียร์ (สหรัฐ)
เตย์มูราซ กาบาชวิลี่ (รัสเซีย) - ฟลอร็องต์ แซร์ร่า (ฝรั่งเศส)
เฟรเดอริค นีลเซ่น (เดนมาร์ก) - ปีเตอร์ โปลันสกี้ (แคนาดา)
ธีเอโม เดอ บาคเกอร์ (เนเธอร์แลนด์) - มาร์ก โลเปซ (สเปน)
เยฟเกนี่ คีเรียลลอฟ (รัสเซีย) - รูเบ็น บีเมลแมนส์ (เบลเยียม)
ดาเนี่ยล แบรนด์ส (เยอรมัน) - อิลิยา มาร์เชนโก้ (ยูเครน)
วิคเตอร์ โทรอิคกี้ (เซอร์เบีย) - มาร์โก้ ชิวดิเนลลี่ (สวิตเซอร์แลนด์)

ประเภทชายคู่
ดิมิทรี ตูร์ซูนอฟ (รัสเซีย)/กิตติพงษ์ วชิรมโนวงศ์ - เตย์มูราซ กาบาชวิลี่ (รัสเซีย)/ดนัย อุดมโชค
มาเอช บูพาติ/ลีนเดอร์ เปส (อินเดีย) - ดาเนี่ยล แบรนด์ส (เยอรมัน)/อีวาน โดดิค (โครเอเชีย)

วอลเลย์บอล เฟดเดอร์บรอย เยาวชนชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 16
ที่โรงยิมเนเซียม จ.ราชบุรี
13.00 น. ออสเตรเลีย - มาเลเซีย
15.00 น. เมียนมาร์ - อินโดนีเซีย
17.00 น. ไทย - เวียดนาม

ยิงเป้าบินไทยแลนด์ โอเพ่น ที่สนามยิงเป้าบิน หัวหมาก เวลา 09.30 น.

18.30 น. มวยไทย ศึกส.สมหมาย เวทีราชดำเนิน

เวนเกอร์ยันไม่โทษอัลมูเนีย แม้เป็นเหตุทำปืนแพ้แบ็กกี้ส์


เวนเกอร์ยันไม่โทษอัลมูเนีย แม้เป็นเหตุทำปืนแพ้แบ็กกี้ส์

เวนเกอร์ ยังหนุน อัลมูเนีย แม้ฟอร์มบู่ในเกมลีกนัดพ่าย ''เดอะ แบ็กกี้ส์'' คารัง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ยันไม่ควรถือเป็นความผิดของนักเตะเพียงคนเดียว เพราะเกมรับพลาดบ่อย และกลับสู่ฟอร์มเก่งกันช้าเกินไปเอง

อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเลือดน้ำหอมของ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล หนึ่งในทีมบิ๊กโฟร์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยันไม่คิดกล่าวโทษ มานูเอล อัลมูเนีย มือกาวหมายเลขหนึ่งของทีม แม้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ทีมพ่ายคาบ้านต่อ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในเกมลีก 2-3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (25 ก.ย.) ชี้ไม่ควรถือเป็นความผิดของนักเตะคนเดียวในทีม

เทรนเนอร์เฟร้นช์แมนของทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "ผมไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของนักเตะคนเดียว ผมคิดว่าเราไม่สามารถรักษาระดับการเล่นของเราไว้ได้มากกว่า ผมเชื่อว่าเกมรับของเราผิดพลาดเยอะมาก และนั่นคือเหตุผลที่เราไม่ควรโทษว่าเป็นความผิดของนักเตะคนเดียว จริงอยู่ที่เรากลับมาได้ เราไม่ยอมแพ้ นั่นเป็นเรื่องดี เราสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย แต่เราเริ่มได้ช้าไป และทำให้เราเรียนรู้ว่าอะไรบ้างเกิดขึ้นกับฟอร์มการเล่นแบบนั้น"

ก่อนนี้มีข่าวลือว่า อัลมูเนีย อาจถูกปล่อยตัวออกจากสโมสร เพราะ อาร์เซน่อล กำลังมองหามือกาวคนใหม่มาเฝ้าเสาแทนที่ โดยมีชื่อของ มาร์ค ชวาเซอร์ ผู้รักษาประตูชาวออสเตรเลียของ ฟูแล่ม ทีมเพื่อนร่วมเมืองมาร่วมทีม แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ยังได้เป็นมือหนึ่งของทีม

โปลิศดุไล่อัดสิงห์เหนือ4-1 กิเลนผยองไล่เจ๊าโลมา2-2


โปลิศดุไล่อัดสิงห์เหนือ4-1 กิเลนผยองไล่เจ๊าโลมา2-2

เพื่อนตำรวจ โคตรดุเปิดบ้านอัด ทีทีเอ็ม พิจิตร ไม่เลี้ยง 4-1 ด้าน “กิเลนผยอง” ตายยาก ไล่ตีเสมอ พัทยาฯ แบบสุดมันส์ 2-2 ทั้งที่โดนนำไปก่อนถึง 2-0 หนีห่าง ชลบุรี 4 แต้มเท่าเดิม โอกาสแชมป์สดใส

การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกประจำวันอาทิตย์ที่ 26 ก.ย. ที่สนามกีฬา ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต “สุภาพบุรุษโล่เงิน” อินทรี เพื่อนตำรวจ ทีมอันดับ 10 ของตารางเปิดบ้านพบกับ “สิงห์เหนือ” ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ทีมอันดับที่ 11 ของตาราง คู่นี้พบกันในลีกเลกแรกปรากฎว่าเป็นเจ้าบ้านที่บุกไปเอาชนะมา 1-0

สำหรับผลงานในลีกนัดล่าสุดของทั้ง 2 ทีมเจ้าบ้านบุกไปเอาชนะ ทหารบก มา 2-1 ส่วนทีมเยือนเล่นในบ้านโดน เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี บุกมาถล่มไป 3-1 นัดนี้ทั้ง 2 ทีมต่างต้องการ 3 แต้มด้วยกันทั้งคู่จึงส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเจ้าบ้านส่ง พิเชษฐ์ อิทร์บาง กับ ชนานันท์ ป้อมบุบผา เป็นคู่หน้า ส่วนทีมเยือนส่ง ไกรกิตติ อินอุเทน กับ กิตติพงษ์ มูลพงศ์ ลงบู๊

เริ่มเกมมาเป็นเจ้าบ้านที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ก่อนและนาทีที่ 6 ก็มีโอกาสจากจังหวะที่ทำเกมบุกขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษทีมเยือน พิเชษฐ์ อินทร์บาง ได้บอลก่อนไหลต่อให้ ชนานันท์ ป้อมบุบผา ได้สับไกลด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลตรงตัว แซมมวล ป คันนิงแฮม รับไว้ได้

จากนั้นก็ยังเป็นเจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกซะเป็นส่วนใหญ่และนาทีที่ 11 ก็ได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษระยะ 25 หลา ชาคริต บัวทอง รับหน้าที่ยิงก่อนที่เจ้าตัวจะปั่นด้วยขวาข้ามกำแพงเข้าประตูไปอย่าสวยงามให้เจ้าบ้าน อินทรี เพื่อนตำรวจ ออกนำ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ไปก่อน 1-0

หลังจากเสียประตูไปก่อนทีมเยือนก็พยายามเปิดเกมบุกสู้บ้างและมีโอกาสจากการยิงฟรีคิกระยะ 20 หลาของ ธนา ศรีพันดร แต่ไม่ผ่านมือ สมพงษ์ ยอดอาจ ที่รับไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากนั้นเกมก็เป็นไปอย่างสูสีทั้งสองทีมมีโอกาสยิงประตูด้วยกันทั้งคู่แต่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบ 20 นาทีแรกของเกมสกอร์ยังเป็นเจ้าบ้านที่นำอยู่ 1-0

นาทีที่ 22 ทีมเยือนมีลุ้นประตูตีเสมออีกครั้งเมื่อ ชัชปภพ อุตสาพรหรม เปิดลูกเตะมุมให้ ดิเอโก้ มาร์ติน ได้โหม่งเต็มศรษะแต่บอลไปตรงตัวผู้รักษาประตูเจ้าบ้านถัดมาอีก 3 นาทีเป็นโอกาสของทีมเยือนอีกครั้งเมื่อ ณรงค์ จันทร์เสวก เลี้ยงบอลขึ้นมาทางกราบซ้านก่อนเปิดไปในกรอบเขตโทษ กิตติพงษ์ มูลพงศ์ ขึ้นโหม่งไม่ถึงบอลเลยมาถึง ไกรกิตติ อินอุเทน ได้โหม่งเต็มๆแต่ยังไม่ผ่านมือ สมพงษ์ ยอดอาจ ที่ยืนถูกตำแหน่งรับเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

ผ่านมาถึงตอนนี้ต้องบอกว่าเกมเริ่มตกเป็นของทีมเยือนแล้วที่มีโอกาสครองบอลเปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 28 เมื่อ ณรงค์ จันทร์เสวก เปิดลูกฟรีคิกมาให้ กิตติพงษ์ มูลพงษ์ ได้โหม่งเต็มๆแต่ข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากที่บุกอยู่พักใหญ่และทำประตูตีเสมอไม่ได้ทีมเยือนต้องมาสังเวยประตูที่ 2 ในนาทีที่ 40 จากจังหวะสวนกลับของเจ้าบ้านที่พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษโดนกองหลังทีมเยือนทำฟาว์ล ชาคริต บัวทอง เปิดมาให้ ชาง ซัง วอน วิ่งมาโฉบไปโหม่งก่อนผู้รักษาประตูทีมเยือนจะเข้าถึงเข้าไปง่ายๆให้ อินทรี เพื่อนตำรวจ หนี ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร ไปเป็น 2-0

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทีมเยือนเกือบได้ประตูคืนเช่นกันเมื่อทำเกมบุกมาถึงเขตโทษบอลมาถึง วัชระ มหาวงศ์ ได้บอลในเขตโทษด้านซ้ายก่อนเจ้าตัวจะจับหนึ่งจังหวะและซัดเต็มข้อด้วยซ้ายเต็มข้อบอลลอยข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดายหลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้ทำให้จบครึ่งเวลาแรก อินทรี เพื่อนตรวจ นำ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร อยู่ 2-0

ครึ่งหลังทีมเยือนไม่มีทางเลือกหลังจากตามหลัง 2 ประตูพยายามเปิดเกมบุกตั้งแต่ต้นส่วนเจ้าบ้านก็ลงมาตั้งรับหาจังหวะสวนกลับทำให้ในช่วง 5 นาทีแรกของครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังไม่มีจังหวะยิงประตูกันมากนักทำให้สกอร์ยังเป็นเจ้าบ้าน อินทรี เพื่อนตำรวจ นำ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร อยู่ 2-0

นาทีที่ 56 จากจังหวะสวนกลับเจ้าบ้านเกือบได้ประตูที่ 3 จังหวะที่ พิเชษฐ์ อินทร์บาง ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงขึ้นมาจากกลางสนามมาถึงหน้าเขตโทษทีมเยือนก่อนล็อกหลบ วัชระ มหาวงศ์ เข้าไปยิงด้วยขวาเต็มข้อในกรอบเขตโทษแต่ไม่ผ่านมือ แซมมวล ป คันนิง แฮม ที่รับไว้ได้

ถัดมาอีกแค่นาทีเดียวเจ้าบ้านก็ได้ประตูที่ 3 จนได้จากความสุดยอดของ นันวัฒน์ แทนโสภา ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาไม่ถึงนาทีได้บอลเกือบกลางสนามก่อนที่เจ้าตัวจะลากเข้าหาเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงลูกใบไม้ล่วงด้วยซ้ายหน้าระยะประมาณ 25 หลาเข้าประตูไปอย่างสวยงามโดยจังหวะนี้ แซมมวล ป คันนิงแฮม ผู้รักษาประตูทีมเยือนได้แต่เซพด้วยสายตาเท่านั้น ส่งให้เจ้าบ้าน อินทรี เพื่อนตำรวจ ทิ้งห่าง ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร เป็น 3-0

และจากจังหวะสวนกลับเช่นเดิมประตูที่ 4 ของเกมเกือบเกิดขึ้นนาทีที่ 67 เมื่อ พิเชษฐ์ อินบาง ของเจ้าบ้านใช้จุดเด่นก็คือความเร็วเลี้ยงบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาทันทีบอลไปตรงตัวผู้รักษาประตูทีมเยือนอย่างน่าเสียดาย

ถัดมาอีก 7 นาทีเจ้าบ้านต้องมาเสียเปรียบตัวผู้เล่นเมื่อ เฟลิเป้ เฟอร์ไรร่า ไปทำฟาว์ลผู้เล่นทีมเยือนก่อนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม จากนั้นทีมเยือนเหมือนได้ใจเปิดเกมลุยแหลกแต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูตีตื้นได้

นาทีที่ 82 ทีมเยือนต้องมาเสียลูกจุดโทษเมื่อ วัชระ มหาวงศ์ ทำฟาว์ล อัสมิง แม ในกรอบเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันทีและเป็น นันทวัฒน์ แทนโสภา รับหน้าที่ยิงไม่พลาดให้ อินทรี เพื่อนตำรวจ หนีห่าง ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร เป็น 4-0

เกมเข้าสู่ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 นันทวัฒน์ แทนโสภา เกือบทำแฮตทริกให้ตัวเองได้สำเร็จเมื่อได้บอลเกือบกลางสนามก่อนลากเข้าหาเขตโทษและตัดสินใจยิงด้วยซ้ายทันทีแต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตูทีมเยือนอย่างน่าเสียดายและในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทีมเยือนมาได้ประตูปลอบใจจากจังหวะที่ วัชระ มหาวงศ์ ชิพบอลมาในกรอบเขตโทษให้ วาลซี่ จูเนียร์ ตัวสำรองพักอกและตวัดยิงด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างสวยงามให้ ทีทีเอ็มเอฟซี พิจิตร ตามมาเป็น 1-4 และจบเกมด้วยสกอร์นี้

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
อินทรี เพื่อนตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ , กฤษฎี ประกอบอง(c) , วู ฮยุน , ทากาฮิโร่ กาวามูระ , ชาคริต บัวทอง , พิเชษฐ์ อินทร์บาง , เฟลิเป้ เฟอร์ไรร่า , ศรัณยู อินต๊ะราช , ชนานันท์ ป้อมบุบผา , ชาง ซัง วอน , อัสมิง แม

ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร : แซมมวล ป คันนิงแฮม , ธนา ศรีพันดร , ณรงค์ จันทร์เสวก , ไกรกิตติ อินอุเทน , กิติพงษ์ มูลพงศ์ , ชัชปภพ อุตสาพรหม , กอบเดช ชอบมโนธรรม , วัชระ มหาวงศ์ , ดิเอโก้ มาร์ติน , ลีออน กัสต้า , นิติพงษ์ ไสยสิทธิ์

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2-2 พัทยา ยูไนเต็ด

ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ จ.ชลบุรี เป็นการพบกันระหว่าง “โลมาฟ้าขาว” พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 แข่ง 24 นัด มีอยู่ 37 คะแนน เปิดบ้านพบกับ “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง ที่มี 54 แต้ม จากการลงสนาม 23 นัด โดยผลการแข่งขันในเลกแรกเป็นทาง เมืองทองฯ ที่เปิดบ้านเอาชนะมาได้ 1-0

เกมนี้ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือเจ้าถิ่นส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามหวังล้างแค้นให้ได้นำโดย สันติ ไชยเผือก, สมชาย สิงห์มณี, ปฏิพณ เพชรวิเศษ, ลูโดวิค คาทาม ส่วนทางด้าน เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือทีมเยือนก็ไม่ยอมน้อยหน้า ยกทัพมาเต็มอัตราศึกเช่นกันนำโดย ดัสกร ทองเหลา, ดักโน่ เซียก้า, ธีรศิลป์ แดงดา, คริสเตียน ควาคู, โคโน่ โมฮัมเหม็ด ซึ่งผู้ตัดสินในเกมนี้คือ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์

เริ่มเกมทั้ง 2 ทีมต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างอย่างเมามันส์ และในน.7 เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ สมชาย สิงห์มณี ลากบอลไปทางกราบขวา ก่อนจะเปิดเข้ากลาง แต่จังหวะเปิด ลูกไปโดนแขน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว นักเตะเมืองทองฯในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินกลับปล่อยให้เล่นต่อ ทำให้นักเตะทีมพัทยาฯเข้าไปรุมประท้วงผุ้ตัดสินกันยกใหญ่ ส่งผลให้ ลูโดวิค ทาคาม ต้องรับใบเหลืองไป

จากนั้นน.15 พัทยาฯได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกกลางประตูระยะ 25 หลา และเป็นทาง นิเวส ศิริวงค์ กัปตันทีมที่วิ่งเข้ามาหวดด้วยขวาเต็มข้อ ลูกพุ่งแรงปานจรวด ก่อนจะเสียบสามเหลี่ยมเสาสองเข้าประตูไป ชนิดที่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารทีมเมืองทองฯได้แต่ป้องกันด้วยสายตา พัทยา ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน 1-0

เกมดำเนินมาถึงน.18 ดัสกร ทองเหลา ห้องเครื่องทีมเมืองทองฯ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องเปลี่ยนเอา อับดุล คูริบารี่ ลงมาเล่นแทน

หลังเสียประตูทีมเมืองทองพยายามบุกหนัก และในน.19 ก็หวิดที่จะตีเสมอได้จากจังหวะที่บอลไปชุลมุนกันหน้าปากประตูเจ้าถิ่น นักเตะทีมเมืองทองฯหลายคนเข้าปะทะแย่งบอลกับกองหลังและผู้รักษาประตูทีมพัทยาฯ ก่อนที่จะเป็น ดักโน่ เซียก้า ที่แหย่ขาจิ้มบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดให้เป็นการทำฟาวล์ผู้รักษาประตูของนักเตะทีมเมืองทองฯเสียก่อน

จากนั้นน.23 เมืองทองฯได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะยิงไกลทางฝั่งขวาของ วีระวุฒิ กาเหย็ม บอลพุ่งไปแฉลบขากองหลังพัทยาฯก่อนจะลอยโด่งทำท่าจะเสียบเสาสอง แต่ นริศ ทวีกูล นายทวารเจ้าถิ่นยังเหินไปปัดออกหลังเอาไว้ได้อย่างสุดยอด

เกมผ่านมาถึงช่วงกลางครึ่งแรก ทีมเมืองทองฯพยายามที่จะเจาะตามช่องเพื่อลุ้นประตูตีเสมอ ส่วนพัทยาฯเจ้าถิ่นเริ่มที่จะเน้นตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับ และในน.31 ทีมเมืองทองฯเกือบยิงได้เมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา ได้โอกาสสับไกยิงด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่บอลพุ่งผ่านหน้าปากประตูออกหลังไปเพียงนิดเดียว

น.34 เมืองทองฯชวดได้ประตูตีเสมอไปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อ โคเน่ โมฮัมเหม็ด วางบอลยาวจากแดนตัวเองให้ คริสเตียน ควาคู หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยขวา ทว่าบอลพุ่งถากเสาสองออกหลังไปเพียงนิดเดียว

ท้ายครึ่งแรกทีมเมืองทองฯพับสนามบุกหนัก แต่ต้องมาโดนจังหวะสวนกลับของทีมพัทยาฯเล่นงานจนเสียประตูที่ 2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ สมชาย สิงห์มณี เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าไปบริเวณจุดโทษ และเป็นทาง ลูโดวิค ทาคาม ที่จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะกลับตัวยิงด้วยขวาเต็มข้อ ลูกพุ่งแรงเข้าตุงตาข่ายไปอย่างสวยงาม ส่งผลให้จบครึ่งแรก พัทยา ยูไนเต็ด ขึ้นนำ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด อยู่ 2-0

เข้าสู่ครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ซึ่งรูปเกมก็ยังเป้นฝั่งทีมเยือนที่พยายามโหมบุกหนัก และในน.51 ก็เกือบได้ประตูแบบโชคช่วยเมื่อ อาร์รินโด้ กองหลังพัทยาฯส่งบอลคืนหลังให้ นริศ ทวีกูล นายทวารในเขตโทษ แต่ นริศ จับบอลพลาดทำให้ลูกไหลกลิ้งเกือบเข้าประตูตัวเอง แต่โชคยังดีที่เจ้าตัววิ่งกลับมาเคลียร์บอลเอาไว้ได้ทัน

จากนั้นน.56 ความพยายามของทีมเมืองทองฯก็เป็นผลเมื่อพวกเขาได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา วีระวุฒิ กาเหย็ม บรรจงเปิดโด่งเข้าไปกลางประตู และเป็นทาง อับดุล คูริบารี่ ที่โถมตัวขึ้นโขกเน้นๆบริเวณจุดโทษส่งบอลเข้าตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ให้ทีมเมืองทองฯไล่จี้เข้ามาเป็น 1-2

หลังได้ประตูตีตื้น ทีมเยือนก็เร่งเกมโหมบุกหนัก และในน.61 ก็ได้โอกาสทองเมื่อ คริสเตียน ควาคู กระดกบอลให้ โคเน่ โมฮัมเหม็ด วิ่งสวนแนวรับทีมพัทยาฯที่พยายามเช็คล้ำหน้าแต่พลาด ทำให้ โคเน่ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ นริศ ทวีกูล นายทวารเจ้าถิ่น ก่อนที่ โคเน่ จะบรรจงยิงเน้นๆส่งบอลเสียบโคนเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ทีมเมืองทองฯตามตีเสมอพัทยาฯได้เป็น 2-2

หลังสกอร์กลับมาเท่ากัน ทีมเมืองทองฯเริ่มที่จะผ่อนเกมรุกลง ทำให้ทีมพัทยาฯได้จังหวะบุกขึ้นมาบ้าง และในน.69 ทัพโลมาก็ได้ลุ้นทำประตูเมื่อได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา บริเวณหัวกะโหลก อิทธิพล พูลทรัพย์ วิ่งเข้ามาปั่นด้วยขวา ลูกลอยโค้งทำท่าจะมุดใต้คาน แต่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารทีมเมืองทองฯยังกระโดดปัดออกหลังเอาไว้ได้

จากนั้นน.72 อับดุล คูริบารี่ ของทีมเมืองทองฯมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง ปิยพล บรรเทา ลงมาเล่นแทน ส่วนทีมพัทยาฯก็เปลี่ยน สมชาย สิงห์มณี ออกและส่ง ธนา ชะนะบุตร ลงมาเล่นแทน

น.78 พัทยาฯได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะยิงไกลของ ธนา ชะนะบุตร ที่หวดเต็มข้อบริเวณริมเขตโทษด้านขวา ลูกพุ่งแรงแต่ดันไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

และในช่วงท้ายเกมทั้ง 2 ทีมไม่มีใครสามารถทำประตูกันได้ ส่งผลให้ พัทยาฯ จึงเสมอกับ เมืองทองฯ ไปอย่างสนุก 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 2 ทีม
พัทยา ยูไนเต็ด : นริศ ทวีกูล (GK), นิเวส ศิริวงค์ (C ), วุฒิศักดิ์ มณีสุข, อาร์รินโด้, อนุชา กิจพงษ์ศรี, อาธานาเซ่, อิทธิพล พูลทรัพย์, สันติ ไชยเผือก(นิรันดร์ฤทธิ์ เจริญสุข), สมชาย สิงห์มณี(ธนา ชะนะบุตร), ปฏิพณ เพชรวิเศษ, ลูโดวิค คาทาม

เมืองทอง ยุไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ (GK), วีระวุฒิ กาเหย็ม, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ (C ), ภานุพงษ์ วงศ์ษา, จักรพันธ์ แก้วพรหม, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว(อมร ธรรมนาม), ดัสกร ทองเหลา(อับดุล คูริบารี่(ปิยพล บรรเทา), ดักโน่ เซียก้า, ธีรศิลป์ แดงดา, คริสเตียน ควาคู, โคโน่ โมฮัมเหม็ด

วิลล่าควงปั้นหม้อบุกซิว2-1 เก็บ3แต้มซุปเปอร์ซันเดย์


วิลล่าควงปั้นหม้อบุกซิว2-1 เก็บ3แต้มซุปเปอร์ซันเดย์

ได้นายใหม่อะไรก็ดี! "สิงห์ผยอง" บุกมายัดเยียดคว้าปราชัย "หมาป่าผู้ดี" 2-1 "เฮสกี้" โหม่งชัย ส่วน "ช่างปั้นหม้อ" ก็ฟอร์มหรู บุกเชือด "สาลิกาดง" 2-1 เก็บสามแต้มเต็มทั้งคู่

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ที่ 2 ประจำวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2553 เป็น ดาร์บี้แมตซ์แดนมิดแลนด์ ระหว่าง "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส เปิดรัง โมลินิวซ์ กราวนด์ ต้อนรับการมาเยือน "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า

วูล์ฟแฮมป์ตัน ของ มิค แม็คคาร์ธี่ จัดชุดผสมเล่นกว่า 120 นาที กว่าที่จะผ่านเข้ารอบ คาร์ลิ่ง คัพ โดยมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นถึง 9 คน เลยที่เดียว ส่วนนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้าอย่าง สตีเฟ่น ฮันท์, ไมเคิล ไคท์ลี่ และ โรนัลด์ ซุบาร์ พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีม และแถมด้วย คริสโตฟ เบอร์ร่า ฟิตพอที่จะมาเป็นสำรองข้างสนามเช่นกัน

ด้าน วิลล่า เพิ่งจะได้กุนซือใหม่ถอดด้ามมาอย่าง เชราร์ อุลลเย่ร์ ที่จะได้รับหน้าที่เต็มตัวในการคุมทัพครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก ส่วนในเกม คาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่เปิดบ้านเอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ มา 3-1 ในเกมนี้ กาเบรียล อักบอนลา

ฮอลร์ น่าที่จะฟิตเต็มที และน่าจะที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่เริ่มเกม ส่วนในราย สตีเว่น ไอร์แลนด์ ที่ด้รับบาดเจ็บตอนซ้อมก็น่าที่จะพร้อมเช่นกัน แต่ว่าทีมจะไม่มี ริชาร์จ ดันน์ เซนเตอร์ตัวเก่งที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ตัวหลักรายอื่นๆ ที่ได้พักจากเกมกลางสัปดาห์มาจะกลับลงมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง

เริ่มเกมมา ช่วง 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมบุกใส่กันเพื่อหวังทำประตูให้ได้ โดยที่บอลส่วนมากจะมาเสียกันอยู่ที่กลางสนาม แต่ก็ยังไม่มีทีมใดที่จะเพลี่ยงพร่ำเสียประตู และโอกาสแรกของ วิลล่า ก็มา เมื่อ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดบอลโค้งมาจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา ให้ เอมิล เฮสกี้ ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษ บอลเลยกองหลัง วูล์ฟส์ มา แต่ เฮสกี้ จับบอลไม่ดีออกหลังไป

น. 19 เดวิด โจนส์ ส่งบอลพลาดกลางสนาม มาร์ค อัลไบรท์ตัน ตัดบอลได้ก่อนที่จะเลี้ยงขึ้นมา มีเพื่อนรออยู่ แต่ไม่ส่ง ตัดสินใจยิงบอลไปตรงตัว มาร์คัส ฮาห์เนมานน์ รับไว้ได้สบาย

น. 24 แอสตัน วิลล่า ออกนำ ไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ได้บอลมาจาก เอมิล เฮสกี้ ก่อนที่จะบรรจงเปิดเรียดจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลผ่าน กองหลังวูล์ฟส์ มา และมี สจ็วร์ต ดาวนิ่ง รอชาร์ต อยู่ที่เสาไกล แปบอลเข้าไปง่ายๆ โดยที่ไม่มีผู้เล่นของ เจ้าถิ่นเข้ามาประกบ

น. 34 เจ้าบ้านน่าที่จะได้ประตูตีเสมออย่างมาก เมื่อ สตีเว่น เฟล็ตเชอร์ ได้กระโดดวอลเลย์ด้วยซ้าย ระยะ 18 หลา บอลพุ่งเข้าหาประตู แต่โดน แบร๊ด ฟรีเดล เซฟเอาไว้ได้ บอลก็ยังกระดอนมาเข้าทาง เฟล็ตเชอร์ อีกครั้ง ก่อนที่จะจ่ายเข้ามาให้ เควิน ดอยล์ ได้ยิงจ่อๆ บอลไปติดบล็อค ฟรีเดล ออกหลังได้เป็ลูกเตะมุม

ช่วง 5 นาทีก่อนทดเวลาบาดเจ็บ เป็นทาง วิลล่า ที่ครองเกมบุก และมีจังหวะเข้าทำมากกว่า แต่ว่าทาง วูล์ฟส์ ก็ไม่ยอมให้จบสกอร์นี้ในครึ่งแรก พยายามช่วยกันแย่งบอล เพื่อที่จะหวังทำประตูตีเสมอ แต่ก็ทำไม่ได้

หมดครึ่งแรก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ถูก แอสตัน วิลล่า บุกมานำถึงถิ่น 0-1

เริ่มเกมครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังคงบุกใส่กันและมีโอกาสทั้งคู่ และ วิลล่า ก็เกือบที่จะโดนตีเสมอ จากจังหวะสวนกลับ และเป็น สตีเฟ่น วอร์น็อค ที่จับบอลกระฉอกกลางสนามไม่ดีบอลห่างตัวและไปเข้าทาง เควิน ดอยล์ ทำให้ วอร์น็อค ต้องตัดฟาวล์ และเกือบที่จะโดนใบเหลืองใบที่ 2 แต่ดีที่ผู้ตัดสินยังใจดี แค่ตักเตือน ได้ฟรีคิกโยน เข้าไปในกรอบเขตโทษ และชุลมุนอยู่ในกรอบเขตโทษ เดวิด โจนส์ ได้หวดด้วยซ้าย ระยะ 20 หลา แต่โดน เจมส์ คอนลินส์ บล็อกไว้ได้ทัน

น. 60 หลังจากที่บุกกดดันมานาน วูล์ฟส์ มาได้ประตูตีเสมอสำเร็จ 1-1 จากลูกเปิดของ แมทธิว ยาร์วิส ทางริมเส้นฝั่งซ้าย เปิดด้วยขวาจากระยะ 30 หลา บอลโค้งเข้าหาประตูมาเหมือนจะไม่มีอะไร และมีนักเตะ วูล์ฟส์ กระโดดเข้ามาทำให้ แบร๊ด ฟรีเดล ชะงักไม่กล้าออกมารับบอล ทำให้บอลเข้าไปตุงตะข่ายอย่างง่ายดาย

น. 69 ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ จ่ายบอลจากกลางสนามไปให้ แอชลี่ย์ ยัง ใช้ความสามารถเฉพาะตัว โยกหลอก โจดี้ แครดด็อค 2-3 จังหวะ มากลางกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะยิงด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งเกือบจะเสาใต้คาน แต่ดีที่ มาร์คัส ฮาห์เนมานน์ กระโดดปัดเอาไว้ได้แค่ปลายนิ้ว

น. 80 หลังจากที่เกมกลับมาเสมอกันที่ 1-1 เป็นทาง วูล์ฟส์ ที่มีการขัยบปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่น เพื่อหวังที่จะเอาชนะให้ได้ กลับกัน วิลล่าที่ส่ง กาเบรียล อักบอนลาฮอลร์ ลงมากก่อนหน้านี้สักพัก กลับไม่มีบทบาท และแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมเลยแม้แต่น้อย แถมถูก เจ้าบ้าน บุกกดดันอยู่ฝ่ายเดียว

น. 87 ทั้งที่โดนบุกมาตลอด กลับเป็นทาง วิลล่า ที่ทำประตูขึ้นนำ 2-1 จากการเปิดบอลของ สตีเฟ่น วอร์น็อค เข้าไปกลางกรอบเขตโทษ เอมิล เฮสกี้ กระโดดขึ้นโหม่งได้ก่อน กองหลังเจ้าบ้าน เข้าไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที เจ้าบ้าน กลับบุกหนักใส่ ทีมเยือน เพื่อหวังตีเสมอให้ได้ แต่ เกมก็ต้องมาหยุดสักพัก เมื่อ สตีฟ ซิดเวลด์ เข้าตัดบอลช้าใส่ อัดเลน เกดิยูร่า รับใบเหลืองไป หลังจากนั้น ผู้เล่น วิลล่า พยายามช่วยกันเคลียร์บอลให้พ้นปากประตู เพื่อรักษาสกอร์

จบเกม วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ถูก แอสตัน วิลล่า บุกมายัดเยียดความปราชัยถึงถิ่น 1-2

รายชื่อผู้เล่น วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
มาร์คัส ฮาห์เนมานน์ - เควิน โฟลี่ย์ (ริชาร์ต สเตียร์เเมน น. 71), โจดี้ แครดด็อค, คริสตอฟ เบอร์ร่า, สตีเฟ่น เวิร์ด (จอร์จ เอโลโคบี้ น. 38) - เดวิด เอ็ดเวิดร์ (อัดเลน เกดิยูร่า น. 81), คาร์ล เฮนรี่, เดวิด โจนส์, แมทธิว ยาร์วิส - สตีเว่น เฟล็ตเชอร์, เควิน ดอยล์

สำรองไม่ได่ใช้
เวย์น เฮนเนสซี่ - มาร์คัส เบนท์, ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล็ค, เนนาด มิลลิยาช

รายชื่อผู้เล่น แอสตัน วิลล่า
แบร๊ด ฟรีเดล - ลุค ยัง, คาร์ลอส เกยาร์, เจมส์ คอนลินส์, สตีเฟ่น วอร์น็อค - มาร์ค อัลไบรท์ตัน (กาเบรียล อักบอนลาฮอลร์ น. 66), ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, สติลิยัน เปตรอฟ (สตีฟ ซิดเวลด์ น. 85), สจ็วร์ต ดาวนิ่ง - แอชลี่ย์ ยัง, เอมิล เฮสกี้

สำรองไม่ได้ใช้
แบร็ด กูซาน - เอริค ริชาจ, แบร์รี่ แบนแนน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เคอร์ติส เดวิส

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-2 สโต๊ค ซิตี้

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายของสัปดาห์ในคืนวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2553 เป็นการพบกันระหว่าง "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดบ้าน เซนต์ เจมส์ ปาร์ค พบกับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ โดยนัดก่อนหน้านี้ ทั้งสองทีมต่างสามารถเก็บชัยในถ้วย ลีกคัพ มาได้ทั้งคู่ โดย นิวคาสเซิ่ล สามารถบุกไปอัด เชลซี มาได้ 4-3 และ สโต๊ค เฝ้าบ้าน ชนะ ฟูแล่ม ไป 2-0

"สาลิกาดง" วันนี้ คริส ฮิวจ์ตัน พบปัญหาในการจัดทีมเล็กน้อย เมื่อไม่สามารถใช้งาน สตีฟ ฮาร์เปอร์ ผู้รักษาประตูตัวจริงได้ เลยต้องใช้บริการ ทิม ครูล ดาวรุ่งชาว ดัตช์ เผ้าเสาแทนที่ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ มาในระบ 4-5-1 มี แอนดี้ คาร์โรลล์ รับบทบาทเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนตัวสนับสนุนในแนวรุกมี เควิน โนแลน, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา และ เวย์น เราท์เลดจ์ โดยมี โจอี้ บาร์ตัน และ อิสมาเอล ติโอเต้ คอยปัดกวาดอยู่หน้ากองหลัง

ส่วน "ช่างปั้นหม้อ" ของ พูลลิส มาในระบบ 4-4-2 โดยมี โจนาธาน วอลเตอร์ส จับคู่กับ เคลวิน โจนส์ ในแดนหน้าเหมือนเคย โดยมี ดีน ไวท์เฮด ช่วยกับ แม็ทธิว แอทเธอริงตัน ในการขับเคลื่อนเกมในแนวรุก ส่วนกองหลังตัวกลางยังคงใช้งาน โรเบิร์ต ฮูธ คู่กับ ไรอัน ชอว์ครอสส์ และในด้านตัวสำรองมีตัวทีเด็ดรออีกเพียบ ไอเดอร์ กุ๊ดยอร์นเซ่น, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ และ รอลี่ ดีแล็ป

เริ่มเกมครึ่งแรกขึ้นมา เกมของทั้งคู่ไม่สามารถเดินเกมรุกใส่กันได้เลย การครอบครองบอลส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางสนาม แทบจะไม่มีการทำเกมรุกเข้าใส่จนถึงพื้นที่สุดท้ายของอีกฝั่งได้

น.18 นิวคาสเซิ่ล มาได้ฟรีคิกน่ารักน่าลุ้นและเป็น เบน อาร์กฟา ที่ตัดสินใจซัด แต่บอลข้ามคานออกไปไกล

น.21 เจ้าบ้านยังคงบุกได้เสียงกว่า จังหวะนี้ โจอี้ บาร์ตัน ป้ายบอลไปทางซ้ายให้กับ เอ็นริเก้ หลุดขึ้นมาแล้วลากบอลทะลุเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนเปิดเรียดเข้ากลางมา แต่ไม่มีใครเข้าชาร์ทถึงบอลได้ทัน

น.33 สาลิกาดง มาได้ลุ้นประตูสองจังหวะติดๆจากลูกฟรีคิก จังหวะแรกเป็น โจอี้ บาร์ตัน ที่ตัดสินใจซัดด้วยขวา ระยะประมาณ 30 หลา ไปติดกำแพง ส่วนอีกจังหวะเป็น เบน อาร์กฟา ที่เป็นคนสังหารฟรีคิก ระยะประมาณ 30 หลาเยื้องมาทางขวาของกรอบเขตโทษด้วยซ้าย แต่ก็ข้ามคานออกไป เช่นกัน

น.43 นิวคาสเซิ่ล มาได้ประตูขึ้นนไจนได้ เมื่อ โรเบิร์ต ฮูธ ไปเบียดชน แอนดี้ คาร์โรลล์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ จากจังหวะกำลังพุ่งโหม่ง ไมค์ โจนส์ ผู้ตัดสินในสนาม ไม่รอช้า เป่าเป็นลูกโทษทันที เควิน โนแลน รับหน้าที่สังหารด้วยขวาเน้นๆ ไม่เหลือซาก ทำให้ "สาลิกาดง" ออกนำ "ช่างปั้นหม้อ" 1-0

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มเติมได้ จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล ออกนำ สโต๊ค 1-0

เริ่มเกมครึ่งหลังขึ้นมา ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรได้มากในช่วงแรก จนมาในนาทีที่ 59 สโต๊ค ซิตี้ เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ เคลวิน โจนส์ ได้โขกเต็มๆ ไปชนเสา บอลกระเด็นออกมา และเป็น ฟูลเลอร์ ที่ได้ซัดเน้นๆโล่งๆ แต่บอลไหลออกข้างไปนิดเดียว

น.61 สโต๊ค ยังคงบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง และเป็น เคลวิน โจนส์ ที่ได้โขกอีกครั้งไปชนเสาอย่างจัง และจากจังหวะเกมรุกของ สโต๊ค อย่างต่อเนื่อง

และ สโต๊ค ก็มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะเกมรุกที่เดินเครื่องกดดันเจ้าบ้านอย่างต่อเนื่อง เป็น ฟูลเลอร์ ที่ได้บอลทางขวาของกรอบเขตโทษ และโดน โฆเซ่ เอ็นริเก้ เข้าชนทำฟาล์วตัดเกมอย่างจังทำให้ไหล่หลุด เป็นเหตุต้องออกจากสนามไปอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เพิ่งถูกส่งลงมาในสนาม และจากจังหวะต่อมาในช่วงนาทีที่ 67 แม็ทธิว แอทเธอริงตัน เปิดลูกฟรีคิกเข้ามา เป็น โรเบิร์ต ฮูธ ที่โหม่งชงจากเสาสองเข้ากลางไปให้ เคลวิน โจนส์ โถมเข้ามาโขกเหน่งๆเข้าไป เป็นประตูตีเสมอให้ สโต๊ค เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล เป็น 1-1

น.74 นิวคาสเซิ่ล มาเปลี่ยนตัวเป็นคนที่สอง โดยเพิ่มแนวรุก เอา โชล่า อเมโอบี้ ที่ซัดสองลูกในนัดที่แล้ว เปลี่ยนลงมาแทนที่ อิสมาเอล ชีค ติโอเต้ กองกลางตัวรับ

น.85 สโต๊ค ซิตี้ มาได้ประตูออกนำ 2-1 จนได้ จากจังหวะที่ สโต๊ค ได้เปิดครอสมาจากทางกราบซ้าย เจมส์ เฟิร์ช พยายามจะโหม่งสกัดออกหลัง แต่ผิดเหลี่ยมบอลพุ่งเข้าประตูไป

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มเติมได้ จบเกม สโต๊ค ซิตี้ บุกมาเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ไปได้ 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด : ระบบ 4-2-3-1
ทิม ครูล์ (ผู้รักษาประตู), เจมส์ เพิร์ช, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, ไมค์ วิลเลี่ยมสัน, โฆเซ่ เอ็นริเก้, เวย์น เราท์เลดจ์, เควิน โนแลน, โจอี้ บาร์ตัน, อิสมาเอล ชีค ติโอเต้ (โชล่า อเมโอบี้ 74), แอนดี้ คาร์โรลล์, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (โฮนาส กูเตียร์เรซ 62)
ผู้จัดการทีม : คริส ฮิวจ์ตัน

สโต๊ค ซิตี้ : ระบบ 4-4-2
โธมัส โซเรนเซ่น (ผู้รักษาประตู), โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แอนดี้ วิลคินสัน, แดนนี่ คอลลิ่นส์, ซาลีฟ ดิเยา (ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ 49) (ไอเดอร์ กุ๊ดยอร์นเซ่น 67), เกล็น วีแลน (รอลี่ ดีแล็ป 57), ดีน ไวท์เฮด, แม็ทธิว แอทเธอริงตัน, โจนาธาน วอลเตอร์ส, เคลวิน โจนส์
ผู้จัดการทีม : โทนี่ พูลลิส

ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

โปรแกรมกีฬา วันที่ 26 / 09 / 2553


ต่างประเทศ

ฟุตบอล ยู-17 ชิงแชมป์ยุโรป รอบคัดเลือก กลุ่ม 6
20.00 น. เบลารุส - โรมาเนีย
20.00 น. ลิกเทนสไตน์ - คาซัคสถาน

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
18.00 น. โบลตัน - แมนฯ ยูไนเต็ด
20.05 น. วูล์ฟแฮมป์ตัน - แอสตัน วิลล่า
22.10 น. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด - สโต๊ค ซิตี้

ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน
20.30 น. โวล์ฟสบวร์ก - ไฟร์บวร์ก
22.30 น. ไกเซอร์สเลาเทิร์น - ฮันโนเวอร์

ฟุตบอล ลีกาสอง เยอรมัน
18.30 น. เอาก์สบวร์ก - 1860 มิวนิค
18.30 น. ยูเนี่ยน เบอร์ลิน - ดุ๊ยส์บวร์ก
18.30 น. ร็อต-ไวน์ โอเบอร์เฮาเซ่น - ออสนาบรุ๊ค

ฟุตบอล กัลโช่เซเรีย อา อิตาลี
17.30 น. เชเซน่า - นาโปลี (ทรูสปอร์ต 3 - 103)
20.00 น. บารี่ - เบรสชา
20.00 น. คาตาเนีย - โบโลญญ่า
20.00 น. คิเอโว - ลาซิโอ
20.00 น. ฟิออเรนติน่า - ปาร์ม่า
20.00 น. ปาแลร์โม่ - เลชเช่
20.00 น. ซามพ์โดเรีย - อูดิเนเซ่
01.45 น. ยูเวนตุส - กายารี่

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
22.00 น. ราซิ่ง ซานตานเดร์ - เคตาเฟ่
22.00 น. ลา กอรุนญ่า - อัลเมเรีย
22.00 น. เอสปันญ่อล - โอซาซูน่า
22.00 น. เรอัล มายอร์ก้า - เรอัล โซเซียดาด
00.00 น. เอร์กูเลส - เซบีย่า
02.00 น. แอตเลติโก มาดริด - เรอัล ซาราโกซ่า

ฟุตบอล ลีกา อเดลันเต้ สเปน
17.00 น. เอลเช่ - เรอัล บายาโดลิด
22.00 น. บาร์เซโลน่า เบ - นูมานเซีย
22.00 น. เซลต้า บีโก้ - คิมนาสติก
22.00 น. ซาลามังก้า - อัลกอร์กอน
22.00 น. ปอนเฟร์ราดิน่า - เรเครอาติโบ อูเอลบา

ฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส
22.00 น. ตูลูส - ลีลล์
22.00 น. แบรสต์ - วาล็องเซียนส์
02.00 น. ล็องส์ - ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ฟุตบอล สกอตติช พรีเมียร์ลีก
18.45 น. อเบอร์ดีน - กลาสโกว์ เรนเจอร์ส

ฟุตบอล เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์
19.30 น. เอ็นเอซี เบรด้า - วิลเล่ม ทเว
19.30 น. เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น - เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม
19.30 น. เอ็กเซลเซอร์ - วิเทสส์
21.30 น. วีวีวี เวนโล่ - เดอ กราฟสคัป

ฟุตบอล ซูเปอร์ลีก โปรตุเกส
22.00 น. เลยเรีย - ริโอ อาฟ
22.00 น. ปอร์ติโมเนนเซ่ - ไบร่า มาร์
02.15 น. สปอร์ติ้ง ลิสบอน - นาซิอองนาล

ฟุตบอล จูปิแลร์ลีก เบลเยียม
23.00 น. อันเดอร์เลชท์ - เมเชเลน
01.30 น. เกอร์มินัล เบียร์ช็อต - คลับ บรูช

ฟุตบอล ทิปเปลิเก้น นอร์เวย์
23.00 น. อาเลซุนด์ - เฮาเกซุนด์
23.00 น. คองสวิงเกอร์ - สตาบีค
23.00 น. อ็อดด์ เกรนลันด์ - ซานเดฟยอร์ด
23.00 น. สตรอมก็อดเซต - โรเซนบอร์ก
23.00 น. ทรอมโซ่ - ไวกิ้ง
01.00 น. วาเลเรนก้า - บรานน์

ฟุตบอล ออลสเวนส์คาน สวีเดน
20.00 น. บรอมมาปอจคาร์น่า - เอล์ฟส์บอร์ก
21.30 น. มัลโม่ - ไอเอฟเค โกเตบอร์ก

ฟุตบอล ซูเปอร์เรตเทน สวีเดน
22.00 น. ลุงสกิล - ฮัมมาร์บี้
22.00 น. ซีเรียนสก้า - บราเก้
22.00 น. ฟัลเคเบิร์ก - โทรลล์ฮัตตาน

ฟุตบอล ซูเปอร์ลีก เดนมาร์ก
19.00 น. นอร์ดเยลลันด์ - ฮอร์เซ่นส์
21.00 น. บรอนด์บี้ - ซิลเคบอร์ก
21.00 น. เอสเบิร์ก - แรนเดอร์ส

ฟุตบอล บราซิเลียโร่ลีก บราซิล
02.00 น. โบตาโฟโก - อัต.พาราเนนเซ่
02.00 น. อินเตอร์นาซิอองนาล - โครินเธียนส์
02.00 น. วิตอเรีย - ฟลูมิเนนเซ่
04.30 น. อัต.มิเนโร่ - เกรมิโอ
04.30 น. อาไว - เซียร่า

กอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ เดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่จอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา (ทรูสปอร์ต 4 - 104)

กอล์ฟ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ วิวองดี้ คัพ 2010 ที่ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

กอล์ฟ เอเชียน ทัวร์ เอเชีย-แปซิฟิก พานาโซนิค โอเพ่น ที่ โกเบ ประเทศญี่ปุ่น

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ โอเพ่น เดอ โมเซลล์ ที่เม็ตซ์ ประเทศฝรั่งเศส

เทนนิส เอทีพี ทัวร์ บีซีอาร์ โอเพ่น โรมาเนีย ที่บูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย

เทนนิส ดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ ฮันซอล โคเรีย โอเพ่น ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

เทนนิสดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ แพน แปซิฟิก โอเพ่น ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

แบดมินตัน โยเน็กซ์ โอเพ่น เจแปน ซูเปอร์ ซีรีส์ 2010 รอบชิงชนะเลิศ ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

บาสเกตบอล 2010 พีก เอบีเอ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศฮ่องกง
ไทยแลนด์ทิว - เคแอล ดราก้อน
ตงก๋วน นิว เซ็นจูรี่ - ฮ่องกง ออลสตาร์

อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ฤดูกาล 2010/2011 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามเวลาประเทศไทย
00.00 น. เทนเนสซี่ ไตตันส์ - นิวยอร์ก ไจแอนต์ส
00.00 น. ซินซินเนติ เบงกอลส์ - แคโรไลน่า แพนเธอร์ส
00.00 น. ดัลลัส คาวบอยส์ - ฮุสตัน เท็กแซนส์
00.00 น. ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส - แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์
00.00 น. พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส - แทมป้า เบย์ บักคาเนียร์ส
00.00 น. บัฟฟาโล่ บิลล์ส - นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์
00.00 น. คลีฟแลนด์ บราวน์ส - บัลติมอร์ เรฟเว่นส์
00.00 น. ดีทรอยต์ ไลอ้อนส์ - มินนิโซต้า ไวกิ้งส์
00.00 น. แอตแลนตา ฟอลคอนส์ - นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส
03.05 น. วอชิงตัน เรดสกินส์ - เซนต์หลุยส์ แรมส์
03.05 น. ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ - แจ็กสันวิลล์ จากัวร์ส
03.15 น. อินเดียนาโปลิส โคลต์ส - เดนเวอร์ บรองโก้ส์
03.15 น. โอ๊กแลนด์ เรดเดอร์ส - แอริโซน่า คาร์ดินัลส์
03.15 น. ซานดิเอโก้ ชาร์จเจอร์ส - ซีแอตเทิ่ล ซีฮอว์กส์

รถสูตรหนึ่ง ฟอร์มูล่า วัน สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศสิงคโปร์

ในประเทศ

ฟุตบอล สปอนเซอร์ ไทย พรีเมียร์ลีก 2010 เลกสอง
- ที่สนาม ม.กรุงเทพ รังสิต
17.00 น. แบงค็อก ยูไนเต็ด - การท่าเรือไทย เอฟซี (FBSTV)
- ที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม
18.00 น. บางกอกกล๊าส เอฟซี - บุรีรัมย์ พีอีเอ (T-Sport - 109)
- ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
18.00 น. อินทรีเพื่อนตำรวจ - ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร (NBT11)
- ที่สนาม เทศบาลเมืองหนองปรือ
18.00 น. พัทยา ยูไนเต็ด - เมืองทองฯ ยูไนเต็ด (SSTV)

ฟุตบอล ลีก ดิวิชั่น 1 2010 เลกสอง
- ที่สนาม โรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี
16.00 น. สุพรรณบุรี เอฟซี - นครปฐม เอฟซี (IPM Sport Cup 8)
- ที่สนาม เทคโนฯ ลาดกระบัง 54
16.00 น. สุวรรณภูมิ-ศุลกากร เอฟซี - ศรีราชา เอฟซี
- ที่สนาม ยามาฮ่า สเตเดี้ยม
18.00 น. ราชประชา-นนทบุรี - สงขลา เอฟซี

ฟุตซอล ยูเอสเอ็ม ไทยแลนด์ ฟุตซอล ลีก 2010 เลกสอง นัดปิดฤดูกาล ที่ เดอะมอลล์ บางแค
11.00 น. BANGKOK F.C. - การท่าเรือแห่งประเทศไทย
13.00 น. สโมสรราชนาวี - CAT F.C.
15.00 น. มหาวิทยาลัยศรีปทุม - ไอ แอม สปอร์ต

เทนนิสพีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น รอบคัดเลือก ที่อิมแพค เมืองทอง เวลา 10.00 น.
ประเภทชายเดี่ยว
วรุตม์ ก่อเกียรติถาวร - อเล็ก โบโกโมลอฟ จูเนียร์ (สหรัฐ)
ดิมิทรี ตูร์ซูนอฟ (รัสเซีย) - ปีเตอร์ โกโจวซิค (เยอรมัน)

วอลเลย์บอล เฟดเดอร์บรอย เยาวชนชายชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 16
ที่โรงยิมเนเซียม จ.ราชบุรี
13.00 น. ไทย - ออสเตรเลีย
15.00 น. อินโดนีเซีย - มาเลเซีย
17.00 น. เวียดนาม - เมียนมาร์

ตะกร้อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 32 ที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ (NBT19) เวลา 09.30-12.00 น.

จักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย สนาม 4 ที่จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 09.00 น.

พูล 9 ลูกชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2553 ที่ ที.บี.ซี. สนุ้กเกอร์ เซ็นเตอร์

12.30 น. มวยไทย ศึกอัศวินดำ เวทีมวยอัศวินดำ
13.50 น. มวยไทย ศึกมวยไทย 7 สี เวทีช่อง 7 สี
16.00 น. มวยไทย ศึกราชดำเนินชูเจริญ+สยามกีฬาทีวี เวทีราชดำเนิน
20.30 น. มวยไทย ศึกวันทรงชัย เวทีราชดำเนิน

หงส์หืดจับ!ตีเจ๊าแมวดำ2-2บักเจิดขวิด!ศึกพรีเมียร์ลีก


หงส์หืดจับ!ตีเจ๊าแมวดำ2-2บักเจิดขวิด!ศึกพรีเมียร์ลีก

หงส์แดงเกือบเน่าคารัง! เดิร์ค เคาท์ ซัดเบิกร่องขึ้นนำ ดาร์เรน เบนท์ เบิ้ลตุง! ให้ ซันเดอร์แลนด์ พลิกแซงขึ้นนำ 2-1 ก่อนที่ "บักเจิด" จะขวิด ตีเจ๊า เซฟ 1 คะแนนในบ้านได้สำเร็จ ศึกพรีเมียร์ลีก

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำค่ำคืนวันเสาร์ที่ 25 กันยายน ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 16 เปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับ 11

รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือทัพหงส์แดง ส่ง เดิร์ค เค้าท์ ที่เพิ่งสลัดอาการบาดเจ็บลงสนามเดินเกมรุกร่วมกับ กัปตันเจอร์ราร์ด และ โจโคล ส่วนหัวหอกเดี่ยวไล่ล่าประตูเป็นหน้าที่ของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ลงประจำการ

ด้าน สตีฟ บรู๊ซ นายใหญ่แมวดำ เริ่มพาทีมกลับมาทำแต้มได้เรื่อยๆ อีกครั้งไม่แพ้มาแล้ว 5 เกมติด จัดการส่ง ดาร์เรน เบนท์, ลอริค กาน่า, ลี แคตเตอร์โมล, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ ลงบู๊ แอนดี้ รีด หายเจ็บกลับมาเป็นอะไหล่สำรอง ส่วน จอห์น เมนซาห์ กองหลังมาเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมเสมอวิลล่า 1-1 เมื่อกลางสัปดาห์ หมดสิทธิ์ลงสนาม

เริ่มเกมมาเพียง 3 น. "เดอะค็อป" เฮเก้อ! เมื่อ ตอร์เรส วิ่งโฉบเข้าชาร์ทบอลหน้าปากประตูฝั่งซ้าย ส่งลูกสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน

แมวดำพลาด! น.5 ซันเดอร์แลนด์ ได้ฟรีคิกในแดนตัวเอง ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ ตั้งใจจะเขี่ยบอลเปลี่ยนจุดให้ ซิมง มิกโยเลต์ ผู้รักษาประตูเป็นคนเตะขึ้นมา แต่ไม่เข้าใจกัน ตอร์เรส วิ่งเข้ามาโฉบตัดหน้าลากบอลเข้าหาปากประตู ก่อนที่จะไหลไปทางขวาถวายให้ เดิร์ค เค้าท์ ที่วิ่งเติมขึ้นมาแปบอลง่ายๆเข้าประตูไป ซึ่งนักเตะซันเดอร์แลนด์ พยายามเข้าไปประท้วง แต่ สจ็วร์ต แอ็ตเวลล์ ผู้ตัดสินถือว่าให้สัญญาณไปแล้ว ส่งผลให้เจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0

น.15 ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ เติมเกมขึ้นมาวอลเลย์หน้ากรอบเขตโทษ บอลข้ามคานออกไปไกล ถัดมา 3 น. สตีเว่น เจอร์ราร์ด โหม่งคืนหลังไม่ดี ดาร์เรน เบนท์ วิ่งโฉบเกือบถึงบอล ยังดีที่ เรน่า ยังอ่านเกมดี ตัดบอลออกมาได้หวุดหวิด

น.20 ลิเวอร์พูล ขึ้นเกมมาทางซ้าย เดิร์ค เคาท์ ลากตัดเข้าในจ่ายต่อให้ ราอูล เมยเรเลส ได้ซัดแต่ไปตรงตัว ซิมง มิกโยเลต์ รับเข้าซอง

น. 22 อาห์เหม็ด อัล-มูฮัมมาดี้ ครองบอลอยู่ที่ริมขอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดบอลเข้าไปลุ้น แต่ไปโดนมือ คริสเตียน โพลเซ่น ที่ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นลูกจุดโทษทันที ดาร์เรน เบนท์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ซัดเต็มแรงไปที่มุมซ้ายมือ เรน่า พุ่งตะปปไม่อยู่ บอลพุ่งสู่ก้นตาข่าย ซันเดอร์แลนด์ ตามตีเสมอเป็น 1-1

ผ่านไป 28 น. พอล คอนเชสกี้ มีอาการบาดเจ็บ "บิ๊กรอย" ตัดสินใจส่ง ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ลงสนามแทน

จากนั้น ซันเดอร์แลนด์ เริ่มทำเกมสวนกลับได้มากขึ้น แต่ยัังไม่สามารถหาจังหวะลุ้นทำประตูได้ถนัด ส่วน ลิเวอร์พูล แดนกลางยังไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสให้กับ ตอร์เรส ได้เลย และไม่มีทีมใดทำอะไรเพิ่มเติมได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล 1-1 ซันเเดอร์แลนด์

ครึ่งหลังเกมผ่านไปเพียง 3 น. เนดุม โอนูโอฮา เติมเกมรุกขึ้นมาเปิดโค้งจากกราบขวามาที่หน้าปากประตู ดาร์เรน เบนท์ วิ่งเบียดขึ้นขวิดเต็มหัว บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างงดงาม ซันเดอร์แลนด์ พลิกแซงขึ้นนำเจ้าบ้าน 2-1

น.59 เฟร์นานโด ตอร์เรส ตั้งใจเสียบสกัดจากด้านหลังใส่ เนดุม โอนูโอฮา ผู้ตัดสินเป่าฟาล์ว พร้อมควักใบเหลืองแรกของเกมแจก ตอร์เรส ทันที ถัดมาอีก2 น. เดิร์ค เค้าท์ ตัดฟาล์วหนักใส่ เแดนนี่ เวลเบ็ค รับใบเหลืองไปอีกใบ

น.61 สตีด มัลบร็องก์ ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ลากจี้เข้าหน้ากรอบเขตโทษแล้วกดเต็มแรงด้วยขวา บอลพุ่งหลุดกรอบไปไม่ไกล จากนั้นน.62 บิ๊กรอย เติมเกมรุกเต็มกำลังจัดการส่ง ดาวิด เอ็นก็อก ลงมาแทน มาร์ติน โพลเซ่น

น.63 โจ โคล ลองสับไกหน้ากรอบเขตโทษ บอลติดไซด์ก้อยโค้งออกหลัง ถัดมา 1 น. ตอร์เรส กระชากบอลทางกราบซ้ายหลุดไปถึงเกือบสุดเส้นหลัง แล้วเปิดย้อนกลับมาหน้าปากประตไปแฉลบ ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ ก่อนที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะวิ่งมาขวิดบอล พุ่งเสียบตาข่ายด้านขวามือ ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอเป็น 2-2

น.76 เดิร์ค เค้าท์ เปิดให้ ตอร์เรส ซัดบริเวณจุดโทษ แต่บอลพุ่งตรงตัว ซิมง มิกโยเลต์ รับเข้าซองสบายมือ ถัดมา 3 น. ราอูล เมยเรเลส ครองบอลหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลไปทางขวาให้ เดิร์ค เค้าท์ ตัดสินใจยิงเร็ว บอลพุ่งเฉียดเสาแรกนิดเดียว

ผ่าน 80 น. ของเกม ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่าที่ 56 เปอร์เซ็นต์ ส่วน ซันเดอร์แลนด์ 44 เปอร์เซ็นต์ น.87 เกล็น จอห์นสัน ลองซัดริมกรอบเขตโทษด้วยขวา ทว่าไม่เข้ากรอบ

น.88 เดิร์ค เคาท์ เปิดบอลจากฝั่งขวาให้ ดาวิด เอ็นก็อก พุ่งขวิดที่เสาแรก หลุดกรอบอีกครั้ง

ช่วงทดเวลา 6 น. ลิเวอร์พูล พยายามเดินเครื่องทำเกมรุกเต็มกำลัง และมีโอกาสลุ้นในช่วงท้ายจาก ดาวิด เอ็นก็อก ที่มีโอกาสเข้าชาร์ท แต่ก็พลาดไป และอีกหนึ่งจากลูกโขกจ่อๆของ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ แต่ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดรัง เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 2-2

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล ( 4-2-3-1) : ผู้รักษาประตู - โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้ (ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์น.28) - คริสเตียน โพลเซ่น(ดาวิด เอ็นก็อกน.62), ราอูล เมยเรเลส - เดิร์ก เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล - เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง : แบร๊ด โจนส์, มักซี่ โรดริเกซ, มิลาน โยวาโนวิช, ลูคัส เลว่า, ดาวิด เอ็นก็อก, โซติริออส คีร์เกียกอส

ซันเดอร์แลนด์(4-4-2) : ผู้รักษาประตู - ซิมง มิกโยเลต์, เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ไตตัส บรัมเบิ้ล - ฟิล บาร์ดสลี่ย์, อาห์เหม็ด อัล-มูฮัมมาดี้, ลี แคตเทอร์โมล, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีด มัลบร็องก์(คริสเตียน ริเวรอส,น.89) - เแดนนี่ เวลเบ็ค(อาซาโมอาห์ กียาน น.81), ดาร์เรน เบนท์
สำรอง : เคร็ก กอร์ดอน, บูเดนไวจ์น เซนเด้น, เปาโล ดา ซิลวา, แอนดี้ รีด, แจ๊ค คอลแบ็ค

ผู้ตัดสิน : สจ็วร์ต แอ็ตเวลล์

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เชลซี
เบอร์มิ่งแฮม 0-0 วีแกน แอธเลติก
ลิเวอร์พูล 2-2 ซันเดอร์แลนด์
อาร์เซน่อล 2-3 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
ฟูแล่ม 0-0 เอฟเวอร์ตัน
แบล็คพูล 1-2 แบล็คเบิร์น
เวสต์แฮม 1-0 สเปอร์ส

ปลาทูเฉือน-วิหคเพลิงเจ๊านาวีบุกเสมอ-พลังเอ็มถล่ม


ปลาทูเฉือน-วิหคเพลิงเจ๊านาวีบุกเสมอ-พลังเอ็มถล่ม

"ปลาทู" เชือดนิ่ม "มังกรไฟ" 1-0 ชลากร สงวนดี ซัด ด้าน "วิหคเพลิง" ทำอะไร "กงจักรพิฆาต" ไม่ได้ เสมอกันไป 0-0 ขณะที่ "ฉลามชล" เปิดบ้านเจ๊ากับ "นิลมังกรนาวี" ไป 1-1 โอกาสคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเลือนลาง ส่วน "พลังเอ็ม" เปิดบ้านถล่ม "กูปรีอันตราย" 6-3 "คัพฟ้า" เบิ้ล 2

การแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เลก2 ที่สนามกีฬา อบจ.สมุทรสงคราม เวลา 16.30 น.เป็นการพบกันระหว่าง “ปลาทูคะนอง” เอสซีจี สมุทรสงคราม พบ “มังกรไฟ 3 เค”บีอีซี เทโรศาสน โดยทางด้านเจ้าถิ่นแข่งมาแล้ว 24 นัดด้วยกันมี 31 คะแนนอยู่อันดับที่ 8 ของตารางการแข่งขัน ส่วนทางด้านทีมเยือนแข่งมาแล้ว 23 นัดมี 28 คะแนนอยู่อันดับที่ 9 ของตารางการแข่งขัน
เกมนี้ทางด้านของ “น้าฉ่วย”สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือใหญ่ เอสซีจี สมุทรสงคราม ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามนำโดย โนงูชิ ปินโต้ ผู้รักษาประตูจอมหนึบลูกครึ่ง บราซิล-ญี่ปุ่น ลงเฝ้าเสา ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร กัปตันทีมตัวเก่งลงคุมเกมในแดนกลาง และ เอฟเฟ่ กองหน้าตัวเก่งลงล่าตะข่าย ส่วนทางด้านของ ฮอร์เก้ อมาย่า กุนซือใหญ่ บีอีซี เทโรศาสน ก็ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสู้เช่นกันนำโดย ธีรเทพ วิโนทัย ,อานนท์ สังสระน้อย และ มาเรียโน่ โซเรนติโน่ ลงเป็นตัวชูโรง

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เกมเริ่มมาได้ไม่ถึงนาทีเป็นทาง บีอีซี เทโรศาสน ที่ได้ทักทายก่อนจากการยิงของ อังเจโล่ มาชูก้า ที่ลุยขึ้นมาจากทางฝั่งซ้ายทว่าบอลหลุดเสาสองออกไป น.3 เอสซีจี สมุทรสงคราม มาได้ลุกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษหลังจากที่ โอโบเด้ เอฟเฟ่ กองหน้าของทีมไปโดนทำฟาล์วและเป็นทาง ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น ที่รับอาสาปั่นเองทว่าไปติดกำแพง

น.15 บีอีซี เทโรศาสน เกือบมาได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ กีย์ ฮูเบิร์ต วางบอลยาวจากแนวหลังขึ้นหน้าให้กับ อานนท์ สังสระน้อย หลุดกับดักล้ำหน้าควบไปเอาบอลได้ก่อนที่จะซัดด้วยขวาเน้นๆแต่ว่า โนงูชิ ปินโต้ ผู้รักษาประตู เอสซีจี สมุทรสงคราม ปัดออกมาได้แต่ยังไม่พ้นอันตราย อานนท์ สังสระน้อย เก็บบอลได้อีกครั้งก่อนที่จะไหลต่อให้ ธีรเทพ วิโนทัย ที่พยายามวิ่งมาแปเน้นๆด้วยซ้ายแต่แรงเกินไปบอลเช็ดคานบอลออกไปอย่างน่าเสียดายพลาดโอกาสขึ้นนำไปสำหรับ บีอีซี เทโรศาสน

น.18 เกมต้องหยุดยาวไปกว่า 5นาที ทีเดียวเมื่อ สุขสยาม ชาญมณีเวช กองหลัง เอสซีจี สมุทรสงคราม ได้รับบาดเจ็บต้องทำการปฐมพยาบาลกันอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะต้องเปลี่ยนตัวออก และส่ง ประหยัด บุญญา ลงไปเล่นแทน

น.25 พานุวัฒ ยิ้มสง่า พาบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายของสนามก่อนที่จะจ่ายต่อให้กับ โอโบเด้ เอฟเฟ่ ในกรอบเขตโทษก่อนจะล็อคหาจังหวะแล้วจัดการยิงทันที พิศาล ดอกไม้แก้ว ผู้รักษาประตู บีอีซี เทโรฯ ได้แต่ยืนมองแล้วทว่าเป็น ปรัชญ์ สมัคราษฎร์ ที่สกัดบอลออกมาได้ทันก่อนทที่จะเข้าประตูไป

น.28 บีอีซี เทโรศาสน ได้โอกาสสวนกลับบ้างทาฝั่งซ้ายจาก ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ก่อนที่จะจ่ายต่อให้กับ อังเจโล่ มาชูก้า ได้หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ ทว่า โนงูชิ ปินโต้ ยังไม่พลาด

น.35 บีอีซี เทโรศาสน มาได้ลูกฟรีคิกอีกครั้งจากจังหวะที่ ประสาร พันธ์สาลี ไปทำฟาล์ว ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ก่อนที่ ประสาร จะรับใบเหลืองไป และเป็นทาง อังเจโล่ มาชูก้า รับหน้าที่ปั่นเองอีกครั้งก็หลุดเสาสองออกไปอีก

น.40 ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ ของบีอีซี เทโรศาสน ลากพาบอลจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษของ เอสซีจี สมุทรสงคราม ก่อนที่จะโดนกองหลัง สมุทรสงครามเข้าสกัดก่อนที่ ณธฤษภ์ จะทิ้งตัวล้มลงแต่กรรมการไม่ว่าอะไร ช่วงท้ายของครึ่งเวลาแรก แฟนๆ บีอีซี เทโรศาสน เฮกันเก้อ เมื่อ อังเจโล่ มาชูก้า เปิดบอลจากทางด้านขวาของสนามเข้ามาให้ ธีรเทพ วิโนทัย ได้พุ่งเข้าชาร์จเน้นๆตุงตะข่ายทว่าไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไป พลาดโอกาสไปอีกครั้งสำหรับ บีอีซี เทโรศาสน จากนั้นยังคงไม่มีใครทำอะไรกันได้หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกเสมอกัน อยู่ 0-0

เริ่มครึ่งเวลาหลัง น.50 โอโบเด้ เอฟเฟ่ ก็มาทำให้แฟนๆ ปลาทูคะนองได้เฮทั้งสนามเมื่อโชว์เสตปเทพด้วยการกระดกบอลข้ามหัว ชลากร สงวนดี ก่อนที่จะวิ่งแซงไปเอาบอลแล้วลากยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่จะจัดการหวด ด้วยขวาแบบไม่มองหน้าใครบอลพุ่งผ่านมือ พิศาล ดอกไม้แก้ว ผู้รักษาประตู เทโรฯ ตุงตะข่าย ส่งให้ เอสซีจี สมุทรสงคราม ทะยานขึ้นนำ บีอีซี เทโรศาสน ไปก่อน 1-0

น.60 บีอีซี เทโรฯ มาได้ลูกฟรีคิกอีกครั้งจากระยะ 25 หลาเยื้องไปทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษเล็กน้อย อานนท์ สังข์สระน้อย ซัดด้วยขวาเน้นๆทว่าไม่ผ่านกำแพงบอลหลุดออกหลังไป

น.66 บีอีซี เทโรศาสน บุกระลอกใหญ่ใส่ เอสซีจี สมุทรสงคราม เป็นชุดจากลูกคอนเนอร์ทางฝั่งขวาของสนาม อังเจโล่ มาชูก้า เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษกองหลัว สมุทรสงคราม สกัดออกมาได้ เก็บบอลได้โดย มาเรียโน่ โซเรนติโน่ พยายามยิงไกลยัดเข้าไปอีกครั้ง กองหลังสกัดออกมาได้รอบนี้มาเข้าทางปืนของ กีย์ ฮูเบิร์ต วอลเลย์สวนเน้นๆแบบไม่จับบอลพุ่งแรง ทว่าไปตรงตัวของ โนงูชิ ปินโต้ เซฟได้สบาย

น.70 สถานการณ์ของ บีอีซี เทโรศาสน ดูจะแย่ลงไปกว่าเดิมเมื่อ มาเรียโน่ โซเรนติโน่ กองกลางของทีม ที่โดนใบเหลืองไปก่อนหน้านี้แล้ว ไปทำฟาล์วหนักใส่ ประหยัด บุญญา อีกครั้งกรรมการแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที บีอีซี เทโรศาสน เหลือ10คน

น.75 กองหลังของ บีอีซี เทโรศาสน ดูเหมือนจะมีปัญหาเมื่อเจอกับลูกโยนยาวบ่อยๆ ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร โยนบอลยาวขึ้นหน้าให้กับ ดิยุฟ บิราม ควบไปเอาบอลได้ก่อนจะลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษทว่ายิงไม่ดีพอบอลออกเสาแรกไป เหลือเชื่อ

น.81 อภินันท์ แก้วปีลา สาดบอลยาวขึ้นหน้า ดิยุฟ จับบอลงได้สวยก่อนก่อนที่จะลากขี้หากรอบเขตโทษอีกครั้งดดยมี เอฟเฟ่ วิ่งทำทางไปทางขวาแจ่ว่าไม่จ่ายเลือกยิงเองด้วยซ้ายบอลเหินข้ามคานออกไปไม่ ได้ลุ้นอะไร

น.87เอสซีจี สมุทรสงคราม น่ามาได้ประตูตอกฝาโลงสุดๆเมื่อบอลยาวจากแนวหลังอีกครั้งให้กับ ดิยุฟ บิราม ควบไปเอาบอลได้ ก่อนจะเลี้ยงจี้แล้วหลบ ชลากร สงวนดี มาได้ แล้วจัดการจ่ายต่อให้ สิทธิพันธ์ ชุมชวย ที่สอดขึ้นมาโล่งๆทว่าคิดช้าทำช้าไปหน่อย พิศาล ดอกไม้แก้ว ผวาออกมาตัดบอลไปได้ทัน ในช่วงเวลาที่เหลือยังคงเป็นทางเจ้าบ้าน เอสซีจี สมุทรสงคราม ที่เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ บีอีซซี เทโรศาสน อย่างหนัก ทว่าไม่สามารถที่จะทำประตูเพิ่มได้หมดเวลาการแข่งขัน เอสซีจี สมุทรสงคราม เอาชนะ บีอีซี เทโรศาสน ไปได้ 1-0 จากประตูโทนของ โอโบเด้ เอฟเฟ่ ในนาทีที่ 50

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
เอสซีจี สมุทรสงคราม : โนงูชิ ปินโต้,ประสาร พันธ์สาลี,สุขสยาม ชาญมณีเวช,ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร ,พานุวัฒ ยิ้มสง่า ,ชุมพล บัวงาม ,อภินันท์ แก้วปีลา ,โอโบเด้ เอฟเฟ่ ,พัชรินทร์ สุกใส, ไตรภพ ชูชื่นกลิ่น ,ดิยุฟ บิราเม่

บีอีซี เทโรศาสน : พิศาล ดอกไม้แก้ว,กีย์ ฮูเบิร์ต ,ปรัชญ์ สมัคราษฎร์,เอเวอร์ เบนิเตซ,ชลากร สงวนดี,ณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ,อังเจโล่ มาชูก้า ,มาเรียโน่ โซเรนติโน่,พิชิต ใจบุญ ,ธีรเทพ วิโนทัย ,อานนท์ สังสระน้อย

ทีโอที แคท เอฟซี 0-0 ทหารบก

ที่ สนามยามาฮ่าสเตเดียมเป็นการพบกันระหว่าง“วิหคเพลิง” ทีโอทีแคท เอฟซี ทีมอันดับ12 ลงแข่ง24 นัดมีอยู่26 คะแนนเปิดบ้านพบกับ“กงจักรพิฆาต” ทหารบกทีมรองบ๊วยแข่ง24 นัดเก็บได้20 แต้มซึ่งผลการแข่งขันในเลกแรกเป็นทางทีโอทีฯที่บุกไปเอาชนะทหารบก1-0

โดยเกมนี้ “โค้ชต้อม” ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือเจ้าถิ่นจัดทัพชุดใหญ่ลงสนามครบครันนำโดยธีรชัยงาม เจริญ, มิโลสลาฟท็อธ, โจเซฟไทเรอร์, อาทรใสงาม ส่วนทางด้าน พ.อ.อำนาจ เฉลิมชวลิต กุนซือคนใหม่ของทหารบกเกมนี้ ประเดิมการคุมทัพด้วยการส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกันนำโดย วันชนะ รัตนะ, คาโต้ยาซึฮิโร่, ดาวิด บายีฮา, ธาตรี สีหาส่วนผู้ตัดสินในเกมนี้คือ ประยูร วีระพูล

เริ่มเกมทั้ง 2 ทีมต่างเปิดเกมรุกแลกหมัดกันอย่างสนุก และในน.10 ทีโอทีฯเกือบที่จะขึ้นนำไปก่อนเมื่อ ธีรชัย งามเจริญ ได้โอกาสส่องไกลระยะ 25 หลาทางกราบซ้าย แต่บอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว

จากนั้นน.13 ทหารบกได้ลุ้นบ้างเมื่อ ดาวุฒิ ดินเขต กระชากบอลไปจนสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนเปิดมาที่เสาแรกให้ ดาวิด บายีฮา วิ่งเข้ามาโขกเน้นๆในกรอบ 6 หลา แต่เจ้าตัวสะบัดไม่พอ ทำให้ลูกพุ่งเฉี่ยวเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

น.22 เจ้าถิ่นหวิดขึ้นนำเมื่อได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา โจเซฟ ไทเรอร์ เปิดโด่งเข้าไปหน้าประตู ธีรชัย งามเจริญ กระโดดขึ้นเบียดกับ โคชิ จุน นายทวารทหารบกในกรอบ 6 หลา ก่อนจะล้มลงไปทั้งคู่ ทำให้บอลพุ่งเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดให้เป็นการทำฟาวล์ผู้รักษาประตูของ ธีรชัย เสียก่อน

เกมดำเนินมาถึงน.29 ทีมเยือนได้โอกาสทองที่จะขึ้นนำเมื่อ ดาวิด บายีฮา ไหลบอลให้ คาโต้ยา ซึฮิโร่ วิ่งเข้ามาตะบันเต็มข้อจากระยะ 22 หลา ลูกพุ่งแรงเข้ากรอบ แต่นายทวารทีโอทีฯยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้

น.37 ทหารบกชวดโอกาสออกนำไปอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อ ดาวิด บายีฮา ได้จังหวะกลับตัววอลเล่ย์เต็มข้อในเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งแรงกำลังจะเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่ว่า อดิศักดิ์ ดวงศรี นายทวารเจ้าถิ่นยังโชว์ซูเปอร์เซฟ บินไปปัดออกหลังเอาไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ช่วงท้ายเกมน.44 ทหารบกได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะยิงไกลกว่า 25 หลาของ จักรพงษ์ สมบูรณ์ แต่บอลก็ยังพุ่งไม่เข้ากรอบอยู่ดี และในช่วงทดเวลาแข่งขันทีโอทีฯได้โอกาสบ้างเมื่อ โจเซฟ ไทเรอร์ เปิดฟรีคิกบริเวณกลางสนามไปให้กับ แอนตัน คุบาล่า เข้าชาจจ์ที่เสาสอง แต่บอลดันผ่านหน้าประตูออกไป ส่งผลให้จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ซึ่งรูปเกมเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่า และในน.52 ก็ได้จังหวะลุ้นทำประตูเมื่อ โจเซฟ ไทเรอร์ แทงบอลทะลุช่อง มิโลสลาฟ ท็อธ หลุดเข้าไปในเขตโทษด้านขวา แต่จังหวะง้างเท้าจะยิงถูกกองหลังทหารบกเข้ามาสไลด์ตัดบอลเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด

น.58 ทีโอทีฯมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่ง วิชา นันทะศรี ลงมาเล่นแทน ยุทธนา ไชยแก้ว กัปตันทีม และอีก 3 นาทีต่อมาก็เปลี่ยน อาทร ใสงาม ออก และส่ง วีระวัฒน์ พลเชียวขวาง ลงมาเล่นแทน

น.65 ทหารบกมีการเปลี่ยนตัวบ้าง โดยส่ง รัฐกิจ ชนะนา ลงมาเล่นแทน คาโต้ยาซึฮิโร่

เกมผ่านมาถึงน.84ทีโอทีฯชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดายเมื่อได้ลูกเตะมุมทาง ฝั่งซ้าย โจเซฟ ไทเรอร์ เปิดโค้งมาที่เสาแรก และเป็นทาง มาเรียน จูฮาส ที่ดถมตัวโขกเต็มศีรษะ แต่ท่าวบอลดันพุ่งเฉี่ยวเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงท้ายเกมน.88 ทหารบกได้โอกาสตอบโต้กลับมาบ้างเมื่อ มงคล ทศไกร ได้จังหวะสับไกยิงด้วยขวานอกกรอบเขตโทษระยะ 23 หลา แต่บอลก็ยังหลุดเสาสองออกหลังไป

และในช่วงน.90 ทีโอทีฯต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ มิโลสลาฟ ท็อธ กองหน้าตัวเก่งที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้ว ไปประท้วงผู้ตัดสินที่เป่านกหวีดให้ฟาวล์กับทีมทหารบกแบบค้านสายตาตัวเอง ทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

และเวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมไม่มีใครสามารถทำประตูกันเพิ่มได้ ส่งผลให้จบเกมการแข่งขัน ทีโอที แคท เอฟซี จึงเสมอกับ ทหารบก ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
ทีโอทีแคท : อดิศักดิ์ดวงศรี(GK), ครรชิต ชลรัตน์อมฤต, มาเรียน จูฮาส, พลวัฒน์ วังฆะฮาด, ธีรชัย งามเจริญ, แอนตัน คุบาล่า, ยุทธนา ไชยแก้ว (C )(วิชา นันทะศรี), อาทิตย์ ดาวสว่าง(ชูศักดิ์ สุวรรณา), มิโลสลาฟ ท็อธ, โจเซฟ ไทเรอร์, อาทร ใสงาม(วีระวัฒน์ พลเชียวขวาง)

ทหารบก : โคชิจุน(GK), สราวุธ ทองสวัสดิ์, ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม (C ), จักรกฤษณ์ เรืองสันเทียะ, ดาวุฒิ ดินเขต, จักรพงษ์ สมบูรณ์(ธนากร แดงทอง), วีระพงษ์ มูลคำแสน, วันชนะ รัตนะ, คาโต้ยาซึฮิโร่(รัฐกิจ ชนะนา), ดาวิด บายีฮา(มงคล ทศไกร), ธาตรี สีหา

ชลบุรี เอฟซี 1-1 ราชนาวี ระยอง

ที่สนาม วพ.จ.ชลบุรี เป็นศึกดาร์บี้แมตช์ชายฝั่งทะเลตะวันออก “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เจ้าบ้านทีมรองจ่าฝูงในเวลานี้มีอยู่ 50 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “นิลมังกรนาวี” ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 13 ของตารางมีอยู่ 23 คะแนน โดยเลกแรกที่ผ่านมาชลบุรี บุกไปเอาชนะได้ถึง 4-0

สำหรับในวันนี้เจ้าบ้านมีปัญหาเรื่องการจัดตัวผู้เล่นพอสมควรเพราะมีนักเตะ บาดเจ็บและติดโทษแบนหลายคนทั้ง “น้าเทิด” เทิดศักดิ์ ใจมั่น,สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่บาดเจ็บ ส่วนในรายของ สุรี สุขะ กับ สุทธินันท์ พุกหอม ก็ติดโทษแบน ในขณะที่ทีมเยือนก็มีปัญหาเช่นเดียวกันในเกมรับเพราะทั้งยานนิค ติดโทษแบน สุระเดช เสาไธสง ก็เจ็บ ซึ่งทั้งสองคนก็เป็นตัวหลักในเกมรับ ในส่วนของบรรยากาศก่อนการแข่งขันแฟนบอลก็มากันเต็มความจุ และสภาพสนามวันนี้ก็สมบูรณ์พร้อมกับการแข่งขัน

เกมครึ่งแรกผ่านไป 10 นาทียังคงสู้กันอย่างสูสีในต้นเกมและทั้งคู่ก็ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ ช่วงต้นเกมดูจะเป็นเจ้าบ้านชลบุรี ที่ครองบอลได้มากกว่าแต่ก็มักจะไปเสียบอลง่ายๆ กันเองในพื้นที่สุดท้าย ส่วนทีมเยือนราชนาวี ก็เน้นแพ็กเกมรับแน่นแล้วรอโต้เป็นส่วนใหญ่ น.17 ชลทิตย์ จันทคาม กองหลังชลบุรี แทงบอลยาวจากกลางสนามไปให้กับ เนย์ ฟาเบียโน่ ได้หลุดไปในเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายจับบอลยาวเกินไปทำให้บอลออกหลังแบบไม่ได้ลุ้น

น.25 เจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 25 หลาเยื้องมาทางฝั่งขวาแล้วเป็น เนย์ ฟาเบียโน่ ที่ปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงก่อนจะเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงามให้เจ้าบ้านนำ ก่อน 1-0 หลังจากนั้นไม่ถึงนาทีทีมเยือนราชนาวี ก็มาได้ประตูตีเสมออย่างทันควันเมื่อ สมเจตร สัตบุษ ลากบอลไปถึงสุดเส้นหลังก่อนจะตวัดกลับเข้ามาหน้าประตู สุทธินันท์ นนที วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ ตรงจุดเตะโทษเข้าประตูไปทำให้เกมกลับมาเท่ากัน 1-1 และรูปเกมก็สนุกขึ้นมาทันตาเห็น

น.38 ราชนาวี เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง จาง จิล ยอง ลงไปแทน ติณภพ ศรีสถิตย์ และเป็นจังหวะที่ชลบุรี มาได้ฟรีคิกหน้าประตูอีกครั้งแต่ครั้งนี้ เนย์ ยิงข้ามคานออกไปไกล น.43 เจ้าบ้านมาได้ลุ้นจากฟรีคิกอีกครั้ง คราวนี้ไกลออกมาถึง 30 หลาทางซ้าย เอพันธ์ อินทเสน ซัดไกลด้วยขวาบอลพุ่งแรงเรียดแต่ โกสินทร์ เหมบุตร ประตูทีมเยือนก็มาเซฟเอาไว้ได้ ก่อนหมดครึ่งแรก สมเจตร สัตบุษ ได้วอลเลย์เต็มข้อหน้าเขตโทษแต่บอลข้ามคานออกไปนิดเดียว

ช่วงทดเวลาครึ่งแรกเจ้าบ้านเกือบได้เฮ เอกพันธ์ ลากบอลไปทางริมเส้นฝั่งขวาไหลเรียดมาที่หน้าประตูบอลนั้นผ่านหน้าของ เนย์ ไปแล้วและ พิภพ อ่อนโม้ เองก็เข้าไม่ถึงบอลถูก ศักดิ์สุริยา กุนโพนเมือง โหม่งสกัดออกหลังไปได้ จบครึ่งแรกทั้งคู่ยังคงเสมอกันอยู่ 1-1

ก่อนเริ่มครึ่งหลังทีมเยือนเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สองเอา วุฒิชัย อะสุชีวะ ลงไปเล่นแทน จีเนป้า ดีดี้ ส่วนชลบุรี ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิม น.54 ราชนาวี เกือบได้ประตูขึ้นนำจากการยิงไกลนอกกรอบของ สุทธินันท์ นนที บอลพุ่งแรงแต่ไม่ตรงกรอบ น.58 เกมของเจ้าถิ่นยังไม่ดีขึ้นและต้องมีการขยับขยายซุ้มม้านั้งสำรองเป็นคนแรง เอาจูเลส บาก้า ออก แล้วส่งศุภเสกข์ ไก่แก้งลงไปเล่นแทน

น.63 ศุภเสกช์ ไก่แก้ว ยิงฟรีคิกระยะ 35 หลาบอลข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น ผ่านมาถึงนาทีที่ 70 ของการแข่งขันยังคงเป็นเกมที่อึดอัดของทั้งสองทีมและมีการตัดฟาล์วหนักๆ หลายครั้ง ชลบุรี ส่งตัวสำรองลงไปอีก 1 นายเอา เอ็นโลเม่ เบอร์แลง ลงไปแทน พิภพ อ่อนโม้ น.81 เจ้าถิ่นพลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อ ศุภเสกข์ ได้ลองส่องไกลด้วยขวาบอลลอยโด่งเช็ดคานออกไป และถัดมาอีก 2 นาที ศุภเสกข์ คนเดิมได้หลุดไปในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะบรรจงปั่นไชด์โค้งกะให้เสียบเสาสอง แต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

น.88 เอ็นโลเม่ เบอร์แลง ได้ยิงจ่อๆ ในเขตโทษแต่ก็ยังไม่ผ่านแผงหลังของราชนาวี ที่วันนี้เล่นกันได้อย่างเหนียวหนึบ ช่วงทดเวลาแข่งขัน ชลทิตย์ จันทคาม ลากบอลเดี่ยวมาคนเดียวทางฝั่งขวาก่อนจะเปิดตบกลับเข้ามาหน้าประตู เนย์ วิ่งเข้ามายิงตามน้ำจ่อๆ แต่ข้ามคานออกไปอย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้จบเกม ชลบุรี เอฟซี เสมอกับ ราชนาวี ระยอง 1-1 ทำให้เจ้าถิ่นยังคงฟอร์มกู่ไม่กลับไม่ชนะใครในลีกมา 3 นัดติดต่อกันแล้วและตามหลังจ่าฝูงอยู่ 3 คะแนน โดยที่แข่งมากกว่า 2 นัด

รายชื่อนักเตะทั้ง 2 ทีม
ชลบุรี เอฟซี : สุจินต์ นาคนายม(GK),ณัฐพงษ์ สมณะ, ภานุวัฒน์ จินตะ, เอกพันธ์ อินทเสน, จูเลส บาก้า, พิภพ อ่อนโม้(C), อดุล หละโสะ, เคนเน็ท อักปูเอเซ่, ชลทิตย์ จันทคาม, เจษฎากร เหมแดง และ เนย์ ฟาเบียโน่

ราชนาวี ระยอง : โกสินทร์ เหมบุตร(GK), ชณธวัฒน์ ศรีสุข, สมเจตร สัตบุษ(C), วิลสัน เจมส์ ดอส ซานโตส(ราตินโญ่), สุทธินันท์ นนที, ภานุวัฒน์ กองจันทร์, ติณภพ ศรีสถิตย์, ศักดิ์สุริยา กุลโพนเมือง, กุศล เพ่งผล, จีเนป้า ดีดี้ และ จาง จิล หยอก

ยอดผู้ชม 4,194 คน

"พลังเอ็ม" เปิดบ้านยำ "กูปรีอันตราย" 6-3

ที่ สนาม อบจ.สระบุรี คู่ระหว่าง โอสถสภาเอ็ม 150 สระบุรี เปิดบ้านตอนรับการมาเยือนของทีมหนีตายอย่าง ศรีสะเกษ เอฟซี เลกแรกที่ทั้งคู่พบกันก็ไม่มีทีมไหนทำประตูได้ เสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปคนละแต้ม

เปิดเกมได้แค่ 3 นาที เจ้าถิ่น ก็มีลุ้นทันทีเมื่อ สุรเดช ธงชัย ลากบอลเข้าไปซัดจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายบอลตรงกรอบ แต่ไม่สามารถผ่านมือของ วัชรพงษ์ กล้าหาญ นายทวารของกูปรีไปได้

น. 9 เป็นฝั่ง กูปรี ที่ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ วุฒิชัย ทาทอง ยิงไกลจากฝั่งขวาประตู บอลลอยเข้าตรงกรอบเกือบเป็นประตูขึ้นนำ แต่ยังหนีไม่พ้นมือ ฉัตรชัย บุตรพรม นายทวารของพลังเอ็ม ไปได้

น. 11 เจ้าบ้านได้ลุ้นในจังหวะที่ สุรเดช ธงชัย เปิดบอลไปหน้าประตู ให้ ไพทูรย์ เทียบมา รับช่วงต่อเข้าไปยิงหน้าประตูแบบเผาขนแต่บอลตรงตัว วัชรพงษ์ กล้าหาญ สองนาถัดมา เล่นเอากองเชียร์ ทีมเยือนอย่าง ศรีสะเกษ เอฟซี ได้เฮลั่นสนาม เมื่อได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 0-1 ในจังหวะที่ เทวา ศรีธรรมานุสาร เปิดบอลไปหน้าประตู กิตติศักด์ ใจหาญ ซัดเต็มข้อเข้าตุงตาข่าย โดยที่ ฉัตรชัย บุตรพรม นายวารของเจ้าถิ่น ทำได้เพียงเซฟด้วยสายตา

น. 22 เสียงเฮจากแฟนบอล "พลังเอ็ม" ก็ดังลั่น เมื่อ คัฟฟ้า บุญมาตุ่น ที่ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าตุงตาข่าย เป็นประตูตีเสมอ ศรีสะเกษ ได้ 1-1

น. 27 เจ้าบ้าน ได้เฮลั่นอีกครั้งเมื่อ อภิภู สุนทรพนาเวศ ได้จังหวะลากบอลเลื้อยเข้าไปซัดเต็มข้อ จากนอกกรอบเขตโทษหน้าประตู และไม่พลาดเป็นประตูขึ้นนำ ศรีสะเกษ 2-1
กูปรีอันตราย เริ่มเปิดเกมบุก โอสถสภา หนักขึ้นในช่วงท้าย

น. 40 ยุน ดอง คิม ได้บอลจากจังหวะชุลมุนหน้าประตู เจ้าถิ่น ซัดบอลเข้าเต็มๆ แต่บอลพลาดเป้าเข้าเสาประตูตกลงมาหน้าประตูอีกครั้ง แต่กองหลังของฝั่งเจ้าถิ่น เข้ามาสกัดออกหลังไปได้ทัน

จบครึ่งแรก โอสถสภา เอ็ม 150 นำ ศรีสะเกษ เอฟซี ไปก่อน 2-1

ครึ่งหลัง ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี พยายามเปิดเกมบุกหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ทำได้เพียงหวาดเสียวเท่านั้น ผ่านมา 13 นาที เจ้าถิ่น ได้เฮอีกครั้งเมื่อ โอลอฟ วัตสัน ซัดในกรอบเขตโทษ เป็นประตูขึ้นนำ 3-1

น. 56 แฟนบอล ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ได้เฮบ้าง เมื่อ วุฒิชัย ทาทอง ยิงจากนอกกรอบเขตโทษทำประตูตีตื้นเป็น 3-2 และถัดมาเพียงแค่ 1 นาที เจ้าถิ่น ทำประตูหนีห่างไปอีกเป็น 4-2 จากการหลุดไปยิงของ สุรเดช ธงชัย ทำให้แฟนบอล ”พลังเอ็ม” คึกคักมากขึ้นไปอีก

น. 65 คัพฟ้า บุญมาตุ่น สร้างเสียงเฮให้แฟนบอล “พลังเอ็ม” สนามแทบแตก โดยหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงหน้ากรอบเขตโทษขึ้นทำประตูนำ 5-2 สร้างความกดดันให้กับ ทีมเยือน เป็นอย่างมาก

น. 70 “กูปรีอันตราย” ได้จุดโทษ โดยที่ กิตติศักดิ์ ใจหาญ กัปตันทีมรับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง ซัดเข้าไปตุงตาข่ายทำให้ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ตีตื้นขึ้นมาเป็น 5-3

น. 81 เจ้าถิ่น แสดงพลังอีกครั้งเมื่อ กฤษดา เก็มเด็น ลากเลื้อยเข้าไปยิงหน้าประตูหนีห่างออกไปอีกเป็น 6-3 สร้างเสียงเฮให้กับแฟนๆ ลั่น

น. 87 ทีมเยือนได้จังหวะจุดโทษรับหน้าที่สังหารโดย ยุน ดอง คิม นักเตะแดนกิมจิ แต่ยิงไม่ดีบอลลอยเข้ามือ ฉัตรชัย บุตรพรม นายทวารเจ้าถิ่นรับเอาไว้ได้

จบเกม โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี เปิดบ้านถล่ม ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี 6-3

รายชื่อนักเตะ โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี
ฉัตรชัย บุตรพร - โกศวัศ ว่องไวลิขิต, ประทุม ชูทอง, มาซิโอ้ ดาซิลวา, เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง - เจษฎา ฬั่วนะคุณมี, โอลอฟ วัตสัน, อภิภู สุนทรพนาเวช, สุรเดช ธงชัย, คัฟฟ้า บุญมาตุ่น - ไพฑูรย์ เทียบมา

รายชื่อนักเตะ ศรีสะเกษ เอฟซี
วัชรพงษ์ กล้าหาญ - ประลอง สาวันดี, เอกพันธ์ จันดากรณ์, ปรัชญา หงษ์อินทร์, โกเศษ เกิดสุข - เทวา ศรีธรรมมานุสาร, วิกเตอร์ อมาโร่, กิตติศักดิ์ ใจหาญ, ยุน ดอง คิม - ปิยวัฒน์ ทองแม้, วุฒิชัย ทาทอง

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เลกสอง ประจำวันที่ 25 ก.ย.
เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี 1-0 บีอีซี เทโรศาสน
โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 6-3 ศรีสะเกษ-เมืองไทย เอฟซี
ทีโอที แคท เอฟซี 0-0 ทหารบก
ชลบุรี เอฟซี 1-1ราชนาวี ระยอง