วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ราชันยังแรงเปิดรังอัดหมี2-0ศึกมาดริดดาร์บี้แมตช์-รั้งฝูง


ราชันยังแรงเปิดรังอัดหมี2-0ศึกมาดริดดาร์บี้แมตช์-รั้งฝูง

"ดาร์บี้แมตช์" แห่งเมืองมาดริด "ราชันชุดขาว" เปิดรังเอาชนะ "ตราหมี" แอต.มาดริด ไปง่ายๆ 2-0 กลับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้งศึก ลา ลีกา สเปน

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน แข่งขันประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2553 ในศึก "ดาร์บี้แมตช์" แห่งเมืองมาดริด เป็นการพบกันระหว่าง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทีมอันดับ 2 ของตาราง มี 23 แต้ม ตามหลัง บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งแข่งจบไปก่อนหน้า 2 แต้ม เปิดสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับการมาเยือน "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ทีมอันดับ 7 ของตาราง มีอยู่ 14 แต้ม

เริ่มเกม เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่เป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม และสามารถส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จ นาทีที่ 9 จังหวะฮาลืฟวอลเล่ย์ของ อังเคล ดิ มาเรีย โดน ดาบิด เด เกีย รับหลุด ซามี เคดิร่า ตามเข้าไปซ้ำตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

น.13 รออยู่ไม่นานกองเชียร์ "ราชันชุดขาว" ก็ได้เฮลั่นสนาม เมื่อพังประตูออกนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ทำชิ่งให้กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เติมเกมขึ้นสูง หลุดเข้าเขตโทษ ยิงเข้าไปตุงตาข่ายให้ เรอัล นำ 1-0

น.19 เกมยังเป็นของเจ้าถิ่นที่ยังบุกต่อเนื่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดไปทางเขตโทษฝั่งขวาโดนเกี่ยวขาล้ม ผู้ตัดสินเป่าเป็นฟรีคิกเยื้องกรอบเขตโทษมาทางขวา เมซุต โอซิล เปิดด้วยซ้ายโค้งเข้าไปเสียบเสา 2 ชนิดที่ไม่มีผู้เล่นคนใดโดนบอล ทำให้สกอร์หนีไปเป็น 2-0

น.29 เรอัล มาดริด เริ่มเพลาเกมลงบ้าง แต่ก็มีลุ้นจากจังหวะกระชากโซโล่เดี่ยวเข้าไปยิงระยะกว่า 30 หลา ของ โรนัลโด้ แต่ก็เข้ามือ ดาบิด เด เกีย แล้ว แอต.มาดริด สวนเร็วทันที เซร์คิโอ อเกวโร่ หลุดไปถึงสุดเส้นฝั่งขวา เปิดเข้ากลางโดน อีเกร์ กาซียาส ปัดไม่ดี บอลมาเข้าทาง ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ตวัดยิง 6 หลา บอลไปติดขา เซร์คิโอ รามอส ออกหลัง

น.36 แอต.มาดริด เริ่มได้ลุ้นบ้างเรื่อยๆ มีจังหวะหวาดเสียวจาก โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส ที่ลากตัดจากริมเส้นฝั่งขวา หลบ มาร์เซโล่ แล้วซัดปั่นโค้งด้วยซ้าย บอลเกือบย้อยเสียบคาน อีเกร์ กาซียาส ลอยตัวปัดออกหลังหวุดหวิด

น.38 เกมเริ่มเพลาลงในช่วงท้ายครึ่งแรก เรอัล มาดริด ยังมีลุ้นอีกครั้ง บอลยาวจากกลางสนามเข้าเขตโทษทีมเยือน กองหลังโหม่งเคลียร์ตกอยู่หน้าเขตโทษ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งเข้ามาซัดตูมเดียว บอลเหินข้ามคาน

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำ แอต.มาดริด 2-0

ครึ่งหลัง ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นทั้งสองทีม แต่ก็ยังเป็น เรอัล มาดริด เจ้าถิ่น ที่บุกและได้ลุ้นก่อน หลังเริ่มเกมมาได้แค่นาทีเศษๆ จังหวะที่ เมซุต โอซิล ตักบอลจากฝั่งซ้าย เข้ากลางให้ กอนซาโล่ อิกวาอิน วอลเล่ย์ด้วยซ้ายแบบไม่จับ บอลเฉียดเสาไปนิดเดียว

น.52 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ ซึ่งเป็นระยะทำการของ โรนัลโด้ เจ้าตัววิ่งเข้ามาซัดทะลุกำแพง แต่บอลพุ่งเข้าไปตรงตัว ดาบิด เด เกีย รับไว้ไม่พลาด

น.61 แม้เจ้าถิ่นยังดูเหนือกว่าทุกขุมกำลัง แต่ว่า แอต.มาดริด ยังมีทีเด็ดทีขาดให้เห็นอยู่ ได้โอกาสลุ้นจากฟรีทางทางซ้าย ซิเมา ซาโบรซ่า เปิดเข้ากลาง โดน คาร์วัลโญ่ โหม่งเคลียร์ออกมาหน้าเขตโทษ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี ฮาล์ฟวอลเล่ย์สวนทันที บอลพุ่งไปชนโคนเสาอย่างน่าเสียดาย

น.74 แอต.มาดริด ได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส ลากตัดจากริมเส้นฝั่งขวา เข้าเขตโทษ กดด้วยซ้ายข้างถนัด บอลลอยโด่งข้ามคานไปอีกครั้ง และ เรอัล ส่ง คาริม เบนเซม่า ลงมาแทน กอนซาโล่ อิกวาอิน ในแดนหน้า

น.79 เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษอีกครั้ง จากจังหวะที่ มาริโอ ซัวเรซ ไปทำฟาวล์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วเป็นเจ้าโด้ ลุกขึ้นมากดเต็มหลังเท้า บอลพุ่งชนกำแพง กระดอนมาเข้าทางอีกครั้ง ซ้ำเข้าไปอีกทีก็ไม่เข้ากรอบ

จบเกม 90 นาที เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะ แอต.มาดริด ในศึก "ดาร์บี้แมตช์" ไป 2-0 ทะยานขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอีกครั้ง มี 26 คะแนน มากกว่า บาร์ซ่า 1 คะแนน ส่วน "ตราหมี" รั้งอันดับ 7 มี 14 คะแนนเท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่น เรอัล มาดริด
อีเกร์ กาซียาส - เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ (ราอูล อัลบิโอล 83), มาร์เซโล่ - ชาบี อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า - อังเคล ดิ มาเรีย (มาอามาดู ดิยาร์ร่า 83), เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน (คาริม เบนเซม่า 74)
สำรองไม่ได้ใช้
อันโตนิโอ อาดาน - เซอร์คิโอ กานาเลส, เปโดร เลออน, อัลบาโร่ อาร์เบรัว

รายชื่อผู้เล่น แอต.มาดริด
ดาบิด เด เกีย - ฆวน บาเลร่า, โทมัส อูฟาลูซี่, อัลบาโร่ โดมิงเกซ, ฟิลิเป้ หลุยส์ - โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส, เปาโล อัสซุนเซา, ติอาโก้ เมนเดส (ราอูล การ์เซีย 69), ซิเมา ซาโบรซ่า - เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ดีเอโก้ ฟอร์ลัน
สำรองไม่ได้ใช้
โจเอล โรเบลส - อันโตนิโอ โลเปซ, มาริโอ ซัวเรซ, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่, ฟราน เมริด้า, ดิเอโก้ คอสต้า