วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

สิงโตแจ่มอัดสวิส10ตัว3-1 รูนซัดเบิกร่องคัดยูโร2012


สิงโตแจ่มอัดสวิส10ตัว3-1 รูนซัดเบิกร่องคัดยูโร2012

"สิงโตคำราม" อังกฤษ โชว์ฟอร์มเก่ง บุกไปคว้าชัยถึงแดน "นาฬิกา" เอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 10 ตัว ไป 3-1 รูนี่ย์ ซัดโต้ข่าวฉาว ศึกยูโร 2012 รอบคัดเลือก

ฟุตบอลยูโร 2012 รอบคัดเลือก ประจำคืนวันอังคารที่ 7 กันยายน 2553 ที่สนามเซนต์ จาค็อบ-พาร์ค ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่นำทัพโดย อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กุนซือมากประสบการณ์ชาวเยอรมัน เปิดบ้านรับมือ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ที่นำทีมเอาชนะ บัลแกเรีย 4-0 ในนัดแรก

เปิดฉากมาในครึ่งแรก ช่วงต้นเกมทั้งสองทีมเล่นได้ค่อนข้างรัดกุม จนกระทั่งถึงนาทีที่ 10 อังกฤษ มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ เกล็น จอห์นสัน หลุดไปถึงสุดเส้นฝั่งขวา เปิดเรียดเข้ากลาง เจอร์เมน เดโฟ กระโดดข้ามหลอกให้ เวย์น รูนี่ย์ ที่เติมมาด้านหลัง แปด้วยขวาจ่อๆ เป็นประตูขึ้นนำ 1-0

น.13 จากจังหวะได้ประตูขึ้นนำของ อังกฤษ ธีโอ วัลค็อตต์ ปีกจรวดของทีม มาได้รับบาดเจ็บข้อเท้าจากจังหวะพุ่งเข้าหาบอล ทำให้ต้องถูกหามออกจากสนามพร้อมกับส่ง อดัม จอห์นสัน ลงสนามมาแทน

น.21 อังกฤษ ยังครอบครองเกมได้เหนือกว่าเจ้าถิ่น สวิส มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ อดัม จอห์นสัน หลุดไปถึงสุดเส้นฝั่งขวา เปิดกลับเข้ากลางให้ เจอร์เมน เดโฟ ตวัดยิงด้วยขวา บอลข้ามคาน

น.31 ผ่านครึ่งชั่วโมงของครึ่งแรก สวิตเซอร์แลนด์ แทบที่จะหาจังหวะเจาะแนวรับของ อังกฤษ ไม่ได้เลย แล้วยังมาโดนลูกยิงไกลกว่า 30 หลา ของ เวย์น รูนี่ย์ ที่ยิงข้ามคานออกไป

น.37 โอกาสลุ้นครั้งแรกของเจ้าถิ่น สวิตเซอร์แลนด์ ต้องรอเกือบถึงช่วงท้ายเกม เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกริมเขตโทษฝั่งขวา อเล็กซานเดอร์ ฟราย เปิดเข้ามาลุ้นกลางประตู บอลทะลักไปถึง ดาวิด เดเก้น ทางเสาสอง ยิงสวนทันที บอลออกข้างไปนิดเดียว

น.43 ทีมชาติอังกฤษ เกือบที่จะบวกสกอร์เพิ่มได้อีกลูก เมื่อ เจอร์เมน เดโฟ รับบอลจาก เวย์น รูนี่ย์ พลิกเข้าเขตโทษ ก่อนที่จะแต่งบอลเข้าเหลี่ยมขวาแล้วซัดเต็มข้อทันที บอลพุ่งเข้าไปตรงตัว ดิเอโก้ เบนาโย่ ปัดทิ้งไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก อังกฤษ บุกมานำ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0

ครึ่งหลัง สวิตเซอร์แลนด์ โดยกุนซือ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ เปลี่ยนผู้เล่นทันที ถอด ฮาเวียร์ มาร์ไกเรซ ออก แล้วส่ง เซอร์ดาน ชาคิรี่ ลงมาแทน

น.52 รูปเกมของ สวิตเซอร์แลนด์ ดูดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรก หลังพักเบรกแก้เกมมา มีอกาสเข้าทำก่อน จากจังหวะที่ โกคาน อินเลอร์ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีม ก่อนที่จะได้วัดไกลร่วม 25 หลา บอลลอยดด่งข้ามคานออกไป

น.59 เกมรุกของ อังกฤษ ยังทำงานอย่างต่อเนื่องไม่แตกต่างจากครึ่งแรก เกือบที่จะได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน วิงแบ็กจอมบุกลุยขึ้นสูง ล็อคเข้าซ้ายก่อนยิงไกล บอลเกือบเสียบเสาสอง ดิเอโก้ เบนาโย่ ปัดปลายมือออกไปหวุดหวิด

น.65 สวิตเซอร์แลนด์ ที่ยังตามหลัง อังกฤษ อยู่ ต้องมาเสียเปรียบเพิ่มขึ้น เมื่อ สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์ มาโดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงในจังหวะพุ่งเสียบ เจมส์ มิลเนอร์ ทำให้ สวิส ต้องเล่น 10 คนในเวลาที่เหลือ 25 นาที

น.69 เสียผู้เล่นไม่พอ สวิส ต้องมาเสียประตูเพิ่ม จากจังหวะสวนกลับ เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เติมมาตรงกลางแล้วแทงต่อให้ อดัม จอห์นสัน หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนที่จะแตะหลบ ดิเอโก้ เบนาโย่ เข้าเหลี่ยมซ้าย ยิงมุมแคบเข้าไป ให้อังกฤษนำห่าง 2-0

น.71 2 นาทีให้หลัง หลังจากเสียประตูที่ 2 สวิส มาทวงประตูตีไข่แตกคืนทันท่วงที เมื่อ เซอร์ดาน ชาคิรี่ ลากบอลจากริมเส้นฝั่งขวาตัดเข้ากลาง ก่อนที่จะซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลแหวกอากาศไซด์หนีมือ โจ ฮาร์ท เข้าไป ไล่มาเป็น 1-2

น.88 "สิงโตคำราม" มาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ แอชลี่ย์ โคล แทงทะลุสุดสวยให้ ดาร์เรน เบนท์ ตัวสำรองหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้าย เสียบเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด

จบ 90 นาที อังกฤษ บุกมาเอาชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-1 เก็บ 3 แต้มกลับบ้านได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์
ดิเอโก้ เบนาโย่ - สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์, สเตฟาน กริชติ้ง, สตีฟ ฟอน เบอร์เก้น, เรโต้ ซิกเลอร์ - ดาวิด เดเก้น (มาร์โก สเตลเลอร์ 64), โกคาน อินเลอร์, เพียร์มิน ชเว็กเลอร์, ฮาเวียร์ มาร์ไกเรซ (เซอร์ดาน ชาคิรี่ 46) - เอเรน แดร์ดิย็อค, อเล็กซานเดอร์ ฟราย

รายชื่อผู้เล่น ทีมชาติอังกฤษ
โจ ฮาร์ท - เกล็น จอห์นสัน, ฟิล จากีลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, แอชลี่ย์ โคล - ธีโอ วัลค็อตต์ (อดัม จอห์นสัน 13), สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แกเร็ธ แบร์รี่, เจมส์ มิลเนอร์ - เวย์น รูนี่ย์ (ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ 79), เจอร์เมน เดโฟ (ดาร์เรน เบนท์ 70)

ผู้ตัดสิน : นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)