วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

ตอร์เบิ้ล!กระทิงรัว4-0,เบียร์ซิวหืด1-0


"กระทิงดุ" สเปน ฟอร์มยังร้อนแรงต่อเนื่อง เมื่อบุกไปเอาชนะทีมรองบ่อนอย่าง ลิกเตนสไตน์ ท่วมท้น 4-0 ขณะที่ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน บุกไปเฉือนเอาชนะ เบลเยียม หวุดหวิด 2-0 ศึกฟุตบอล ยูโร 2012 รอบคัดเลือก เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบคัดเลือก กลุ่มไอ
ลิกเตนสไตน์ 0 - 4 สเปน


สนาม : ไรน์พาร์ค


กระทิงดุ ลงเล่นนัดแรกอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ก้าวสู่บัลลังก์แชมป์โลก ด้วยการมาเยือนสมันน้อยอย่างลิกเตนสไตน์ โดยจัดชุดใหญ่มีทั้งชาบี เอร์นานเดซ ปั้นเกมแดนกลาง ส่วนอันเดรส อิเนียสต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส และดาบิด บีย่า ล่าตาข่าย ขณะที่เจ้าบ้านฝากความหวังกับมาริโอ ฟลิค

เริ่มเกมมาแค่ 3 นาทีเท่านั้น กระทิงดุได้ลุ้นถึง 2 ครั้ง จากการซัดของอิเนียสต้า และบีย่า ทว่าปีเตอร์ เยห์ล ยังเซฟไว้ได้

ลิกเตนสไตน์ เปิดเกมแลกเหมือนกัน และเรียกร้องจะเอาจุดโทษนาทีที่ 12 จากจังหวะที่มาริโอ ฟลิค ลากตัดมายิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษบอลพุ่งไปโดนแขนเซร์คิโอ รามอส ในเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสินเฉย

ทำนบเจ้าบ้านแตกนาทีที่ 18 จากจังหวะผิดพลาดที่เสียบอลให้ตอร์เรส กระชากไปยิงด้วยขวาเล่นทางตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด สเปน นำ 1-0

อีก 2 ต่อมากระทิงดุน่าจะได้ประตูที่ 2 เมื่ออิเนียสต้า แทงบอลทะลุช่องให้ตอร์เรส หลุดเดี่ยวไปดวลกับเยห์ล นายทวารเจ้าบ้าน ทว่าหัวหอกลิเวอร์พูล กลับยิงติดเซฟอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 26 กระทิงดุหนีเป็น 2-0 โดยบีย่า ได้บอลหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยขวาดื้อๆ แม้ว่าเยห์ล พยายามแต่ป้องกัน ทว่าบอลแรงปลิ้นเข้าประตูไป

ยังคงเป็นสเปน ที่ครองบอลบุกข้างเดียวแม้จะนำ 2 ประตูแล้ว นาทีที่ 37 เกือบจะได้ประตูที่ 3 บีย่า พลิกเข้าไปยิงในเขตโทษด้วยขวาตรงจุดโทษ ต้องชมเยห์ล ที่ใช้ขาเซฟไว้ได้เหมือนกัน จบครึ่งแรกกระทิงดุ นำสบายๆ 2-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังสเปน ยังบุกต่อ นาทีที่ 54 จากลกเตะมุมชาบี เอร์นานเดซ เปิดบอลมาหน้าประตูเคราร์ด ปิเก้ โถมมาโขกหลุดกรอบนิดเดียว

กระนั้นนาทีต่อมา กระทิงดุโขยกหนีเป็น 3-0 และเป็นอีกครั้งที่บอลตามช่องจากอิเนียสต้า ให้ตอร์เรส หลุดไปในเขตโทษแล้วเลือกแปด้วยขวาสวนตัวเยห์ล ตุงตาข่ายแบบเฉียบคม

จากนั้นนาทีที่ 61 แชมป์โลกได้ประตูที่ 4 เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ให้บอลไปที่ดาบิด ซิลบา ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาแทนตอร์เรส กดด้วยขวาพุ่งเข้าประตูไป

แม้จะนำห่างแล้ว กระนั้นกระทิงยังคงดุ นาทีที่ 68 บีย่า ได้จังหวะสับในเขตโทษเป็นอีกครั้งที่เยห์ล ป้องกันเอาไว้ โดย "เอล กวาเฆ่" ต้องการอีกลูกเดียวจะเทียบสถิติยิง 44 ประตูในทีมชาติสเปน ของราอูล กอนซาเลซ

ช่วงเวลาที่เหลือทีมเยือนยังบุกต่อ ทว่าก็ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมสเปน บุกถล่มลิกเตนสไตน์ 4-0 โชว์ฟอร์มสมกับเป็นแชมป์โลก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิกเตนสไตน์ : ปีเตอร์ เยห์ล - อีฟส์ โอเอห์รี, มาร์ติน สต็อคคลาซ่า, มิชาเอล สต๊อคคลาซ่า, ลูคัส เอเบอร์เล่ - ฟิลิปป์ แอร์น, มิเชเล่ โปลเวริโน่, ซานโดร วีเซอร์, ฟร้านซ์ เบิร์กไมเออร์ - เดวิด ฮาสเลอร์, มาริโอ ฟลิค
สำรอง : เซนกิซ บิเซอร์ - มาร์ติน เรชสไตเนอร์, รอนนี่ บูเชล, รอนนี่ ฮานเซลมันน์, นิโกลาส ฮาสเลอร์, ฟาบิโอ เดเลีย, ฟร้านซ์ โจเซฟ โฟ้กท์

สเปน : อีเกร์ กาซียาส - เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้, การ์ลอส มาร์เชน่า, โจน กัปเดบีล่า - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ - อันเดรส อิเนียสต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาบิด บีย่า
สำรอง : เปเป้ เรน่า - เชส ฟาเบรกาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปโดร โรดริเกวซ, เฟร์นานโด ยอเรนเต้, ดาบิด ซิลบา, เฆซุส นาบาส

ผู้ตัดสิน : บูเลนท์ ยิลดิริม (ตุรกี)



ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบคัดเลือก กลุ่มเอ
เบลเยียม 0 - 1 เยอรมนี


สนาม : คิงโบดวง สเตเดี้ยม, บรัสเซลล์, เบลเยียม


จอร์จ ลีเกนส์ กุนซือของเจ้าบ้าน เบลเยียม มีปัญหาในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ เยลเล่ ฟาน ดามม์ บาดเจ็บ ทำให้ต้องขยับ โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังกัปตันทีมมายืนแทน ส่วนตำแหน่งที่เหลือจัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม โดยมี โรเมลู ลูคาคู ยืนเป็นหน้าเป้า

ด้าน "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ของ โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์เจ้าเสน่ห์ที่เพิ่งนำทีมคว้าอันดับสามฟุตบอลโลก 2010 ครั้งที่ผ่านมา มีปัญหาในตำแหน่งกองหลังที่ขาด อาร์เน่ ฟรีดริช กับ เยโรม บัวเต็ง มีปัญหาอาการบาดเจ็บจนไม่ติดทัพชุดนี้ ทำให้ เลิฟ ส่ง โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ลงไปยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์ และให้ มาร์เซลล์ ยานเซ่น รับบทแบ็กซ้าย

เปิดฉากมาแปดนาที โรเมลู ลูคาคู โชว์ความแข็งแกร่งลากบอลลหนีตะลุยแผงหลัง เยอรทนี มาสองคน ก่อนอัดด้วยซ้ายเต็มแรงนอกรอบ เดือดร้อนให้ มานูเอล นอยเออร์ ต้องล้มตัวพุ่งไปตะครุบบอลไว้ถึงสองครั้งจึงจะเอาอยู่

ต่อมาเป็นโอกาสของทาง อินทรีเหล็ก บ้าง จากจังหวะลูกฟรีคิกทางด้านซ้าย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ รับอาสาปั่นบอลข้ามกำแพงไปตกที่ข้างตาข่ายเสาแรก

นาที 19 ทีมเยือน อินทรีเหล็ก น่าจะได้ประตูออกนำสุดๆ ลูคัส โพดอลสกี้ โยนจากฝั่งซ้ายมาให้ โธมัส มุลเลอร์ วิ่งสอดเข้ามาตอกส้นคืนบอลกลับหลังให้ เมซุต โอซิล ตั้งป้อมยิงเน้นๆ ทว่าบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 24 แยน แฟร์ตองเก้น กองกลางตัวรับจาก อาแจ็กซ์ เลี้ยงตัดเข้ากลางมาก่อนซัดด้วยซ้าย บอลหลุดออกเสาสองไปได้ลุ้น

หลังจากนั้นเกมเริ่มเนือยลงไป โดยบอลส่วนใหญ่จะอยู่ที่กลางสนาม นาที 35 มารูยาน เฟลไลนี่ ไหลบอลทะลุช่องไปให้ ลูคาลู ได้อัดไปติดมือ นอยเออร์ กระเด้งออกมาหมายจะตามซ้ำ ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ทำเอา ลูคาลู โวยลั่นด้วยความเซ็ง

หลังจากนั้นทั้งสองทีมไร้จังหวะที่จะลุ้นสกอร์อีกในครึ่งแรก ส่งผลให้จบครึ่งเวลาแรก เจ้าบ้าน เบลเยียม เสมอกับ เยอรมนี 0-0

เลิฟ ทำการปรับแท็กติกส่ง ไฮโค เวสเตอร์มันน์ ลงไปแทนที่ ยานเซ่น และขยับเอา บาดสตูเบอร์ไปยืนเป็นแบ็กซ้ายแทน

และนาทีที่ 51 อินทรีเหล็ก ก็มากระพือปีกออกนำสำเร็จ จากจุดเริ่มต้นที่ เฟลไลนี่ จ่ายบอลพลาดจนกระเด้งไปให้ ดาเนียล ฟาน บุยเต็น ทำโฉ่งฉ่างเตะเคลียร์ออกมาไปติดผู้เล่นทีมเยือน ก่อนไหลมาเข้าทางของ มุลเลอร์ ที่พลิกบอลจ่ายให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ จับบอลหนึ่งจังหวะและแปด้วยซ้ายเสียบเสาแรกเข้าประตูไป เยอรมนี ออกนำ 1-0

เบลเยียม พยายามเดินเกมบุหมายตีคืนให้ได้โดยเร็ว แฟร์ตองเก้น พลิกบอลหาจังหวะปั่นไซด์นอกกรอบ ทว่ายังไม่ผ่านมือ นอยเออร์ ที่ยืนได้ถูกตำแหน่ง

นาที 62 เจ้าบ้านมามีโอกาสได้อีก บาดสตูเบอร์ โหม่งสกัดลูกโยนออกมาไม่ดีมาเข้าทาง เฟลไลนี่ ได้อัดสวนนอกกรอบเหินข้ามคานออกไป

เบลเยียม เดินเครื่องเต็มพิกัด และได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 18 หลา ที่ ชไวน์สไตเกอร์ ไปแซะ ลูคาลู ล้มลง ทว่าลูกยิงของ เอด็อง ฮาซาร์ด ดันซัดไปแฉลบกำแพงออกหลังไป

ถัดมาสามนาที อินทรีเหล็ก น่าจะได้ประตูที่สองอย่างยื่ง จากจังหวะที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมลากตะลุยขึ้นมาทำชิ่งกับ ชไวน์สไตเกอร์ ก่อนไหลเรียดเข้ากลางมาให้ มุลเลอร์ วิ่งเข้ามาซัดเต็มแรงไปติดมือ โลแกน เบลลี่ ที่พุ่งไปปัดไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ

ช่วงเวลาที่เหลือนักเตะ เยอรมนี เน้นครองบอลฆ่าเวลาให้หมดไปและทำได้สำเร็จ จนจบเกมทำให้ เยอรมนี บุกมาชนะ เบลเยียม 1-0 คว้าสามแต้มประเดิมนัดแรก

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เบลเยียม : โลแกน เบลลี่ - โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แว็งซอง กอมปานี, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, โธมัส แฟร์มาเล่น - ทิมมี่ ซิมงส์, แยน แฟร์ตองเก้น, มารูยาน เฟลไลนี่, เอด็อง ฮาซาร์ด, มุสซ่า เดมเบเล่ - โรเมลู ลูคาคู
สำรอง : ฌอง-ยิลล์เลต, โลร็องต์ ซิมอง, โอลิวิเย่ร์ เดส์ชาชต์, สตีเฟ่น เดฟูร์, อักเซิล วิทเซิล, คริสเตียน เบนเทเก้, เยลเล่ โฟสเซ่น

เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, มาร์เซลล์ ยานเซ่น - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ - มิโรสลาฟ โคลเซ่
สำรอง : ทิม วีเซ่, ไฮโค เวสเตอร์มันน์, โทนี่ โครส, มาร์โค มาริน, คริสเตียน เทรซ, มาริโอ โกเมซ, คาเคา

ผู้ตัดสิน : เทอร์เย่ เฮาเก้ (นอร์เวย์)


สรุปผลฟุตบอลยูโร 2012 รอบคัดเลือก
กลุ่มเอ
คาซัคสถาน แพ้ ตุรกี 0-3
เบลเยียม แพ้ เยอรมัน 0-1



กลุ่มบี
อาร์เมเนีย แพ้ ไอร์แลนด์ 0-1
อันดอร์ร่า แพ้ รัสเซีย 0-2
สโลวาเกีย ชนะ มาซิโดเนีย 1-0



กลุ่มซี
หมู่เกาะแฟโร แพ้ เซอร์เบีย 0-3
เอสโตเนีย แพ้ อิตาลี 1-2
สโลวีเนีย แพ้ ไอร์แลนด์เหนือ 0-1



กลุ่มดี
โรมาเนีย เสมอ แอลเบเนีย 1-1
ลักเซมเบิร์ก แพ้ บอสเนียฯ 0-3
ฝรั่งเศส แพ้ เบลารุส 0-1



กลุ่มอี
มอลโดวา ชนะ ฟินแลนด์ 2-0
สวีเดน ชนะ ฮังการี 2-0
ซานมารีโน่ แพ้ ฮอลแลนด์ 0-5



กลุ่มเอฟ
ลัตเวีย แพ้ โครเอเชีย 0-3
กรีซ เสมอ จอร์เจีย 1-1



กลุ่มจี
มอนเตเนโกร ชนะ เวลส์ 1-0
อังกฤษ ชนะ บัลแกเรีย 4-0



กลุ่มเอช
ไอซ์แลนด์ แพ้ นอร์เวย์ 1-2
โปรตุเกส เสมอ ไซปรัส 4-4


กลุ่มไอ
ลิทัวเนีย เสมอ สกอตแลนด์ 0-0
ลิคเตนสไตน์ แพ้ สเปน 0-4