ปืนใหญ่ยำไก่ต่อเวลา4-1 นาสรี่เบิ้ลโทษทะลุคาร์ลิ่ง

ปืนใหญ่ยำไก่ต่อเวลา4-1 นาสรี่เบิ้ลโทษทะลุคาร์ลิ่ง

"ปืนใหญ่" ยำ "ไก่" ต่อเวลาพิเศษ 4-1 หลังเสมอในเวลา 1-1 นาสรี่ เบิ้ลโทษ อาร์ชาวิน ควง แลนส์บิวรี่ คนละเม็ด ส่วน "ไก่" ได้จาก คีน ปลอบใจต้นครึ่งหลัง ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย คาร์ลิ่ง คัพ ได้สำเร็จ

ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบสาม 32 ทีมสุดท้าย ประจำวันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553 เป็นการประเดิมสนามในถ้วยนี้ของทีมจากพรีเมียร์ลีก ที่ได้ไปลุยถ้วยยุโรป โดยในคู่บิ๊กแมตช์ของรอบนี้เป็น ศึก "ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์" ระหว่าง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปิดบ้านที่สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน พบกับ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล
วันนี้ แฮร์รี่ เร็ดแน็ปป์ จัดทัพ "ไก่เดือยทอง" แบบหลวมๆ ไม่ใช้ผู้เล่นที่จริงจังอะไรเลย ส่วนใหญ่เป็นนักเตะสำรอง มาในระบบ 4-4-2 กองหน้าเป็น โรมัน พาฟลิวเชนโก้ จับคู่กับ โจวานนี่ โดส ซานโต๊ส หัวหอกร่างย่อม ส่วนกองกลางมี รานิเอรี่ กิมาเรส ซานโดร ดาวรุ่งชาว บราซิล วัย 21 ปี ได้โอกาสลงสนามทำเกมคู่กับ เดวิด เบนท์ลี่ย์ ส่วนกองหลังมี เซบาสเตียง บาสซง ยืนเป็นตัวหลักคู่กับ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ ขณะที่ประตูเป็นหน้าที่ของ สติเป้ เพลติโคซ่า ผู้รักษาประตูตัวใหม่ชาว โครแอต

ส่วน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ วันนี้จัดตัวผู้เล่นลงสนามมาค่อนข้างแตกต่างจากที่คาดเอาไว้ ในระบบ 4-2-3-1 โดยกองหน้าเป็น คาร์ลอส เวล่า ยืนหน้าเป้าคนเดียว โดยมี โทมัส โรซิซกี้, ซามีร์ นาสรี่ และ อองรี แลนส์บิวรี่ แนวรุกดาวรุ่ง เป็นตัวสนับสนุนเกมรุก ส่วนกองหลังสี่คนเป็น เอบูเอ้, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, โยฮัน ฌูรู และ คีแรน กิบบ์ส และผู้รักษาประตูเป็นนายด่านสำรอง ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ที่ได้รับโอกาสลงมาโชว์ฟอร์ม ซึ่งถือว่า อาร์เซน่อล ชุด คาร์ลิ่ง คัพ ปีนี้ ไม่ขี้เหร่เลยซะทีเดียว

เริ่มเกมขึ้นมาในครึ่งแรกไม่นาน เป็น อาร์เซน่อล ที่บดเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 15 หลังจากที่ทำเกมจ่ายกันไปกันมา โดย เอบูเอ้ ให้บอล กิบบ์ส ทางฝั่งซ้าย ก่อนปาดเข้ากลางมาให้ โรซิคกี้ และต่อไปที่ วิลเชียร์ ที่แอบขึ้นมาเปิดเรียดไปหน้าปากประตูและเป็น แลนส์บิวรี่ ที่สอดเข้ามาแปง่ายๆเข้าไป

น.20 สเปอร์ส ได้จังหวะตอบโต้บ้างและเป็น เบนท์ลี่ย์ ที่กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวาข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้เลย แทบไม่มีจังหวะเข้าทำได้ถึงพื้นที่สุดท้าย จนหมดครึ่งแรก อาร์เซน่อล บุกไปนำ สเปอร์ ถึงถิ่น 1-0

เริ่มครึ่งหลังขึ้นมา เร็ดแน็ปป์ อยุ่เฉยไม่ได้ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวทีเดียวสองคน โดยเอา ร็อบบี้ คีน และ อารอน เลนน่อน ลงมาสร้างสรรค์เกมรุกแทนที่ โจวานนี่ โดส ซานโต๊ส และ แจ็ค ลิเวอร์มอร์

น.49 และการเปลี่ยนตัวก็เป็นผล เมื่อ กองหลังของ อาร์เซน่อล เช็กล้ำหน้าพลาดจากจังหวะโต้กลับ นาฟตัน แทงบอลไปให้ ร็อบบี้ คีน หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ฟาเบียนสกี้ ก่อนซัดด้วยขวาเน้นๆเข้าไปทางเสาไกล ตีเสมอให้กับ สเปอร์ เป็น 1-1

น.60 เวล่า จ่ายให้ เอบูเอ้ ได้ซัดด้วยขวาระยะทำการแต่ออกไปอย่างน่าเสียดาย

ผ่านนาทีที่ 70 มาสามนาที เวนเกอร์ อยู่เฉยไม่ได้ ทำการเปลี่ยนตัวในแนวรุกทีเดียวสองตัว โดยส่ง มารูยาน ชามัคห์ และ อังเดร อาร์ชาวิน ลงมาแทนที่ โทมัส โรซิซกี้ และ คาร์ลอส เวล่า

ช่วงนาทีที่ 90 อาร์เซน่อล เกือบมาได้ประตูชัยเมื่อ เอบูเอ้ ได้เปิดลูกฟรีคิกเข้าไป ก่อนที่ลูกจะขลุกขลิกหน้าปากประตูและถูกเคลียร์ออกมาได้ทันเวลา

จบ 90 นาที ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ ผ่านมาไม่ถึง 1 นาที อาร์เซน่อล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ เมื่อได้ลูกโทษที่จุดโทษจากจังหวะที่ อาร์ชาวิน หยอดบอลไปในกรอบเขตโทษและเป็น นาสรี่ ที่กำลังหลุดเข้าไปยิง แต่โดน บาสซง ดึงล้มลง ก่อนที่ นาสรี่ จะลุกขึ้นมายิงด้วยขวาด้วยตนเอง ให้ อาร์เซน่อล กลับมานำอีกครั้ง 2-1

หลังจากนั้น ไม่นานในนาทีที่ 95 "ปืนใหญ่" ก็มาได้ประตูนำห่าง 3-1 จากลูกโทษที่จุดโทษ โดยเป็นจังหวะที่ อาร์ชาวิน แทงบอลทะลุช่องไปให้ ชามัคห์ กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโดน สตีเว่น คูลเกอร์ เหนี่ยวล้มลง และเป็น นาสรี่ ที่ซัดอีกครั้งด้วยขวา เข้าไปอย่างง่ายดาย

อาร์เซน่อล มาเปลี่ยนตัวเป็นคนสุดท้าย โดยถอดเอา คีแรน กิบบ์ส ที่มีอาการบาดเจ็บออก และส่ง กาแอล กลิชี่ แบ็กซ้ายตัวจริง ลงมาเล่นแทน

น.105 อาร์เซน่อล ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ และมาได้ประตูที่สี่อีก จากจังหวะเล่นเร็วในลูกฟรีคิกกลางสนาม ก่อนที่ อาร์ชาวิน ที่ได้รับบอลไปแล้วกดด้วยซ้ายเข้าเสาไกล ชนิดที่ สติเป้ เพลติโคซ่า หมดสิทธิ์รับ อาร์เซน่อล ออกนำห่าง สเปอร์ ถึงถิ่น 4-1

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มเติมได้ จบเกม อาร์เซน่อล บุกไปถล่ม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 4-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปของศึก คาร์ลิ่ง คัพ ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ : ระบบ 4-4-2
สติเป้ เพลติโคซ่า (ผู้รักษาประตู), สตีเว่น คูลเกอร์, เซบาสเตียง บาสซง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, ไคล์ นาฟตัน, รานิเอรี่ กิมาเรส ซานโดร, เดวิด เบนท์ลี่ย์, วิลสัน ปาลาซิออส, แจ๊ค ลิเวอร์มอร์ (อารอน เลนน่อน 46), โรมัน พาฟลิวเชนโก้, โจวานนี่ โดส ซานโต๊ส (ร็อบบี้ คีน 46)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : คาร์โล คูดิชินี่ (ผู้รักษาประตู), อลัน ฮัตตัน, ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน, เจอร์เมน จีนาส, นิโก้ ครานชาร์
ผู้จัดการทีม : แฮร์รี่ เร็ดแน็ปป์

อาร์เซน่อล : ระบบ 4-2-3-1
ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู), เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, โยฮัน ฌูรู, คีแรน กิบบ์ส (กาแอล กลิชี่ 102), แจ็ค วิลเชียร์, โทมัส โรซิซกี้ (อังเดร อาร์ชาวิน 73), เดนิลสัน, ซามีร์ นาสรี่, อองรี แลนส์บิวรี่, คาร์ลอส เวล่า (มารูยาน ชามัคห์ 73)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : มานูเอล อัลมูเนีย (ผู้รักษาประตู), บาการี่ ซานย่า, เคร็ก อีสต์มอนด์, เจย์ เอ็มมานูเอล-โธมัส
ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์

ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบสาม ประจำวันอังคารที่ 21 กันยายน 2553
เบอร์มิงแฮม 3-1 มิลตัน คีนส์
เบรนท์ฟอร์ด 1-1 (Pen 3-2) เอฟเวอร์ตัน
เบิร์นลี่ย์ 1-0 โบลตัน
มิลล์วอลล์ 1-2 อิปสวิช
ปีเตอร์โบโร่ 1-3 สวอนซี
พอร์ทสมัธ 1-2 เลสเตอร์
สโต๊ค 2-0 ฟูแล่ม
ซันเดอร์แลนด์ 1-2 เวสต์แฮม
สเปอร์ส 1-1 (ET 1-4) อาร์เซน่อล
วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 (ET 4-2) น็อตต์ส เคาน์ตี้