วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

สเปอร์สพลิกแซงวูล์ฟส์3-1สาลิกาดงบุกดับทอฟฟี่1-0



สเปอร์สพลิกแซงวูล์ฟส์3-1สาลิกาดงบุกดับทอฟฟี่1-0

วูล์ฟส์ บุกนำ สเปอร์ส ก่อน 1-0 ในครึ่งแรก ก่อนที่ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท,พาฟลิวเชนโก้, อลัน ฮัตตัน จะเรียงหน้าซัดตุงครึ่งหลัง ช่วย "ทัพไก่" เอาชนะไป 3-1 ด้าน "สาลิกาดง" ล้างอาถรรพ์ 15นัดมาเยือนไม่ชนะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน"จากประตูโทน ของ "อาร์กฟา" ท้ายครึ่งแรกศึกพรีเมียร์ลีก

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 18 กันยายน ท็อตเเน่ม ฮ็อทสเปอร์ อันดับ11ของตาราง เปิดรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมอันดับ9
เจ้าบ้าน แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์หมดสิทธิ์ใช้งาน เจอร์เมน เดโฟ ที่ข้อเท้าหักมาจากเกมทีมชาติที่พบกับ บัลแกเรีย พักยาว 3 เดือน รวมไปถึง ปราการหลังตัวหลัก ไมเคิ่ล ดอว์สัน ที่เจ็บหัวเข่าจากเกมดังกล่าว ต้องรออย่างน้อย 6 สัปดาห์ กว่าจะฟิตกลับมาอีกครั้ง แต่ข่าวดีก็คือการได้ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท มาแบบสดๆร้อนๆ ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง รวมถึง ปีเตอร์ เคราซ์ หัวหอกร่างโย่ง หายเจ็บหลังกลับมายืนในแนวรุกตั้งแต่นาทีแรก ร่วมกับ ร็อบบี้ คีน

ส่วนทีมเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ไม่มีชื่อของ คริสตอฟ เบอร์ร่า กองหลังของทีมที่โดนไล่ออกในเกมพ่าย ฟูแล่ม ริชาร์ด สเตียแมน คุมเกมรับแทน สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ กับ เควิน ดอยล์ เป็นคู่หัวหอกล่าประตู

เริ่มเกมการแข่งขัน "ไก่เดือยทอง" เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน เริ่มบุกจากขวาไปซ้าย ในช่วง 10 น.แรก เจ้าบ้าน สเปอร์ส เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ยังไม่สามารถสร้างสรรค์เกมเข้าไปลุ้นประตูในกรอบเขตโทษได้ น.17 กลับกลายเป็น วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่มีโอกาสลุ้นก่อน แมทธิว จาร์วิส เปิดให้ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ ได้ขึ้นโขกบอลพุ่งหลุดกรอบ

น.19 เควิน โฟลี่ย์ รับใบเหลืองแรกของเกม หลังไปเข้าสกัดจากด้านหลังใส่ แกเร็ธ เบล

น.21 จากการจ่ายบอลทะลุช่องให้ แกเร็ธ เบล หลุดเข้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ได้สับไกด้วยขวาไปติดตัว มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ นายทวารทีมเยือน มาเข้าทาง ร็อบบี้ คีน ได้ซัดบริเวณจุดโทษ แต่โดน ริชาร์ด สเตียแมน แนวรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส สไลด์เคลียร์ทิ้งออกหลังไปได้

น.30 ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท พักบอลด้วยหน้าขาหนึ่งจังหวะก่อนสับไกด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงเข้ากรอบ มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ ปฏิกิริยาเร็วยกมือซ้ายปัดออกหลังหวุดหวิด ถัดมา 2 น. ทอม ฮัดเดิลสตัน เปิดฟรีคิกจากกึ่งกลางสนามให้ ยูเนส กาบูล โหม่งออกหลัง

น.33 แกเร็ธ เบล เปิดโค้งจากกราบซ้ายไปที่เสาไกล ปีเตอร์ เคร้าช์ ขวิดเต็มหัว มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ ไม่พลาดลอยตัวปัดออกหลัง

ทัพไก่ลุ้นตัวโก่ง! น.40 แกเร็ธ เบล ครองบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนกระชากจนถึงสุดเส้นหลังแล้วโยนด้วยซ้ายมาที่หน้าปากประตู ร็อบบี้ คีน โฉบเข้าขวิด บอลพุ่งหลุดเสาสองออกไปไม่ไกล

สาวกไก่เดือยทองช็อกทั้งสนาม หลังเสียประตู สเปอร์ส่ง อลัน ฮัตตัน ลงมาเล่นแทน ยูเนส กาบูล ทันที แมทธิว จาร์วิส ได้บอลหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนตวัดเรียดเข้ากลางให้ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ เข้าชาร์ทด้วยซ้ายส่งบอลสู่ก้นตาข่ายให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ขึ้นนำเจ้าบ้านไปก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง สเปอร์ส เปิดหัวได้ลุ้นจังหวะแรก ในน.49 บอลทางขวา อลัน ฮัตตัน ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองช่วงท้ายครึ่งแรก ตัดสินใจยิงด้วยขวาจากมุมเขตโทษ บอลถากเสาไกลออกหลัง ถัดมา 7 น. นาทีที่ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมก่อนจะพลิกหนี เควิน ดอลย์ ตัดเข้าในแล้วปั่นไซด์โป้งด้วยซ้าย บอลหลุดเสาไกลออกหลัง

น.58 แกเร็ธ เบล เปิดมาจากฝั่งซ้าย ร็อบบี้ คีน ลอยตัวจักรยานอากาศออกหลัง จากนั้นน.66 ร็อบบี้ คีน โดน "จ่าแฮรี่" ถอดออก แล้วส่ง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ลงมาล่าตาข่ายแทน

ไก่เดือยทองได้จุดโทษ! น. 76 อลัน ฮัตตัน โดนเกี่ยวล้มลงในเขตโทษ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท รับหน้าที่สังหารซัดอย่างมั่นใจส่งลูกสูก้นตาข่ายฝั่งซ้าย มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ หลง!พุ่งไปอีกทาง เจ้าบ้านตามตีเสมอเป็น 1-1

จากนั้น สเปอร์ส เดินเครื่องบุกแหลก! น.78 แกเร็ธ เบล ลากตัดจากกราบขวาเปิดเข้าเขตโทษ ทอม ฮัดเดิลสตัน เกี่ยวบอลลงด้วยขวาก่อนสับไกบอลพุงตรงตัว มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ รับสบาย

และแล้วน.87สาวกทัพไก่ก็ได้เฮลั่นไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อ อารอน เลนน่อน ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง พาบอลขึ้นมาทางขวาเปิดจากเส้นหลังมากลาง กองหลังวูล์ฟสโขกสกัดไม่ดีมาเข้าทาง ทอม ฮัดเดิลสตัน สับไกสวนเข้าหาประตูแฉลบแนวรับวูล์ฟสมาเข้าทาง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ซัดจ่อๆไม่ถึง 6 หลาเข้าประตู สเปอรส ขึ้นนำ 2-1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บน.92 อลัน ฮัตตัน ลากบอลจากกราบขวาทะลุผ่านผู้เล่นวูล์ฟส์ เข้าไปหน้าเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างน่าเหลือเชื่อ สเปอร์ส หนีห่าง 3-1 และจบการแข่งขันด้วยสกอร์นี้

รายชื่อ นักเตะทั้ง 2 ทีม
สเปอร์ส (4-4-2) : คาร์โล คูดิชินี่ - ผู้รักษาประตู, ยูเนส กาบูล, เล็ดลี่ย์ คิง, วิลเลี่ยม กัลลาส, เบอร์นัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - เจอร์เมน เจนาส, ทอม ฮัดเดิลสตัน, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, แกเร็ธ เบล - ปีเตอร์ เคร้าช์, ร็อบบี้ คีน

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (4-4-2) : มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ - ผู้รักษาประตู, เควิน โฟลี่ย์, ริชาร์ด เสตียร์แมน, โจดี้ แคร็ดด็อก, สตีเฟ่น วอร์ด - มิเชล แมนเซียนน์, คาร์ล เฮนรี่, เดวิด โจนส์, แมทธิว จาร์วิส - เควิน ดอยล์, สตีเว่น เฟล็ทเชอร์



"สาลิกา" บุกอัด "ทอฟฟี่" 1-0

"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน เปิดรัง กูดิสัน พาร์ค ต้อนรับการมาเยือน "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยที่สถานะการของทั้ง 2 ทีม ยังคงขึ้นๆ ลงๆ ไม่มีอะไรแน่นอน

เดวิด มอยส์ พาทีมทำผลงานในอาทิตย์ที่ผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเปิดบ้านยันเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บถึง 2 ลูก แต่มาในนัดนี้จะต้องชวดใช้งาน แจ็ค ร็อตเวลล์ กองกลางดาวรุ่งที่เจ็บข้อเท้าต้องพักยาวถึง 3

เดือนต่อไป รวมไปถึง หลุยส์ ซาฮา ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณน่องต้องพักถึง 3 สัปดาห์เช่นกัน ขณะที่ต้องรอเช็คความฟิตของ วิคเตอร์ อนิเชเบ้ ที่มีอาการเจ็บหัวเข่ารบกวน ขณะที่มีข่าวดี อาจจะได้เห็น ยาคูบู กลับมาลงสนามอีกครั้งในตำแหน่ง

ตัวจริง และโดยสภาพรวมของทีมจากที่เสมอกับ "ปีศาจแดง" มาไม่น่าที่จะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดมาก อาจจะใช้ชุดเดิมลุย

ด้าน คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือ เดอะ แม็คพายส์ ที่เกมที่แล้วเปิดรังพ่าย แบล็คพลู ไป 0-2 ยังคงใช้ชุดเดิม ไม่ต้องมาปวดหัวกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นมากเท่าไร แอนดรูว์ คาร์โรลล์ หัวหอกตัวความหวังที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ก็ฟิตพอที่จะลงมา

ล่าตาข่าย แต่จะไม่มี ซิสโก้ ที่ติดโทษแบน 2 นัด และเช่นเดียวกับพวกที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้า ทั้ง สตีเว่น เทย์เลอร์, แดนนี่ กัทธรี, ลีออน เบสต์, แดนนี่ ซิมพ์สัน และ แดน กอสลิงก์

เริ่มครึ่งแรก ทั้งสองทีมพยายามทำเกมกดดัน เพื่อทำประตูออกนำ แต่บอลก็อยู่บริเวณกลางสนามซะเป็นส่วนใหญ่ ผลัดกันครองบอล และเป็น ทีมเยือนที่มีโอกาสก่อน จากจังหวะกระชากบอลบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้ายของ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ได้เปิดเข้า

กลางประตู ผู้เล่นเอฟเวอร์ตัน พยายามเข้าประกบ แอนดี้ คาล์โรลล์ แต่บอลเลยมาถึง เวย์น เราท์เล็ดจ์ ได้โหม่งบอลออกหลังไป

น. 14 เควิน โนแลน ตัดบอลได้จากกลางสนามส่งให้ ชิค ทีโอเต้ เลี้ยงบอลขึ้นมาไม่มีผู้เล่น เจ้าบ้าน เข้าประกบ ก่อนที่จะตัดสินใจยิง แต่บอลเบาเกินไป ทิม ฮาวเวิร์ด รับเข้าซองสบาย

น. 21 ทีมเยือน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เบน อาร์กฟา ได้บอล ก่อนที่จะแหวกกองหลัง เจ้าบ้าน มากลางประตู แต่ไม่ยิง ส่งบอลต่อไปให้ เควิน โนแลน ในกรอบเขตโทษได้ยิงบอลไปติด ทิม ฮาวเวิร์ด แต่ ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไป

น. 27 ผ่านมาเกือบจะครึ่งชั่วโมงของเกม เอฟเวอร์ตัน ยังคงตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ และโดน นิวคาสเซิ่ลฯ บุกใส่ และเกือบที่จะได้ประตูหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ และทีมเยือนมาได้ฟรีคิกระยะทำการกลางประตู โจอี้ บาร์ตัน รับหน้าที่

เป็นคนยิง บอลพุ่งไปทางซ้ายมือของ ทิม ฮาวเวิร์ด กระโดดเซฟเอาไว้ได้

น. 32 เกมต้องมาหยุดไปชั่วคราว เมื่อ สตีฟ ฮาร์เปอร์ ได้รับบาดเจ็บ จากจังหวะที่ ออกมาสกัดบอลทิ้งออกไป แต่โดน เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด สไลด์มาแย้งบอล จนทำให้ต้องเปลี่ยนตัวเอา ทิม ครูล ลงมาแทน

น. 38 เอฟเวอร์ตัน เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ผู้เล่น นิวคาสเซิ่ลฯ ส่งบอลพลาดกันที่กลางสนาม บอลไปเข้าทาง สตีเว่น พีนาร์ ก่อนที่บาดบอลมาทางขวาให้ ลีออน ออสแมน ที่วิ่งเต็มขึ้นมาคนเดียวไม่มีผู้เล่น ทีมเยือน เข้ามาประกบ ได้

จังหวะยิง จากระยะ 18 หลา แต่ก็โดน ทิม ครูล เวฟเอาไว้ได้

ก่อนหมดเวลา 2 นาที นิวคาสเซิ่ลฯ มาได้ประตูออกนำ 1-0 จาก เบน อาร์กฟา ที่ได้บอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษ และล็อคบอลอยู่ 2-3 จังหวะ ก่อนที่จะตัดสินใจยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าโกล์ไปอย่างสวยงาม เป็นประตูแรกภายใต้เสื้อ "เดอะ แม็กพายส์"

หมดครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน ถูก นิวคาสเซิ่ลฯ บุกมานำถึงถิ่น 0-1

เริ่มครึ่งหลัง 10 นาทีแรก ทอฟฟี่ เปลี่ยนตัวผู้เล่นทีเดียวถึง 2 คน เพื่อแก้เกมกลับมาให้ได้ ส่ง อเย็กเบนี่ ยาคูบู และ ซีมุส โคลแมน ลงมาแทน เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด และ ลีออน ออสแมน ที่วันนี้ทำผลงานช่วงครึ่งแรกได้ไม่ค่อยดีนัก และพยายามบุกหนัก เพื่อหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ โหมบุกอย่างหนัก ทำเอา นิวคาสเซิ่ล ถึงกับต้องไปตั้งรับกันทั้งทีม

น. 63 สตีเว่น พีนาร์ ได้บอลบริเวณริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่จะปาดให้ มิเกล อาร์เตต้า ที่วิ่งสอดมาข้างหลัง เปิดบอลเข้ากลางมาให้ ซีมุส โคลแมน ได้ยิง แต่บอลไปติดบล็อก กองหลังทีมเยือน ออกหลังไป

น. 73 น่าที่จะเป็น นิวคาสเซิ่ลฯ ที่จะได้ประตูอีก จากจังหวะที่ เควิน โนแลน ได้บอลในกรอบเขตโทษ จากจังหวะแทงบอลทะลุระหว่าง 2 กองหลังของ เอฟเวอร์ตัน มาที่ โนแลน ก่อนที่จะโดนสกัดบอลจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสิน ไม่ให้เป็นลูกจุดโทษ และให้เล่นต่อไป

น. 79 ทีมเยือน ครองบอล และต่อบอลหันไปมาครองกลางสนามสลับซ้ายที ขวาที เพื่อหาจังหวะเข้าทำประตู และพยายามดึงเวลา ก่อนที่จะโยนเข้าหาประตู แต่ก็โดน ทิม ฮาวเวิร์ด ออกมาทุบบอลออกข้างไปได้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที ของครึ่งหลัง เจ้าบ้าน เปิดเกมรุกอย่างหนัก เพื่อที่จะทวงประตูมาให้ได้ก่อนหมดเวลา และเกือบจะสัมฤทธิ์ผล จากลูกตั้งเตะ ก่อนที่จะเล่นสั้น มาทางซ้ายของกรอบเขตโทษ มิเกล อาร์เตต้า จ่ายบอลมากลางกรอบเขตโทษ และเป็น อเย็กเบนี่ ยาคูบู ที่ยืนอยู่ตรงนั้น แปบอลผ่านผู้เล่น ทีมเยือน ไปหมดแล้ว แต่บอลดันไปชนเสา กระดอนมาชน ผู้เล่น ทีมเยือน และมาเข้ามือ ทิม ครูล

จบเกม เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านพ่าย นิสคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-1

รายชื่อผู้เล่น เอฟเวอร์ตัน
ทิม ฮาวเวิร์ด - โทนี่ ฮิบเบิร์ต, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ - มิเกล อาร์เตต้า, จอห์นนี่ ไฮติงก้า (ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ น. 71), ลีออน ออสแมน (ซีมุส โคลแมน น. 46), สตีเว่น พีนาร์, มารูยาน เฟลไลนี่ - เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด (อเย็กเบนี่ ยาคูบู น. 46)

สำรองไม่ได้ใช้
ยาน มูช่า - รอสส์ บาร์คลี่ย์, มากาเย่ กีเย่, ฟิล เนวิลล์

รายชื่อผู้เล่น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
สตีฟ ฮาร์เปอร์ (ทิม ครูล น. 34) - เจมส์ เพิร์ช, ไมล์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - เวย์น เราท์เล็ดจ์, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (โฮนาส กูเตียร์เรซ น. 83), โจอี้ บาร์ตัน, ชิค ทีโอเต้ - เควิน โนแลน - แอนดี้ คาล์โรลล์

สำรองไม่ได้ใช้
โซล แคมป์เบล, ไรอัน เทย์เลอย์, ปีเตอร์ โรเวนคาน, โซล่า อเมโอบี้, อลัน สมิธ

สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ค ซิตี้ 1-1 เวสต์แฮม (18.45 น. )
แอสตัน วิลล่า 1-1 โบลตัน
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 ฟูแล่ม
เอฟเวอร์ตัน 0-1 นิวคาสเซิ่ล
สเปอร์ส 3-1 วูล์ฟแฮมป์ตัน
เวสต์บรอมวิช 3-1 เบอร์มิงแฮม
ซันเดอร์แลนด์ - อาร์เซน่อล (23.30 น.)