วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

งูนำ4-0โดนไก่ไล่4-3 เบลซัด3บิ๊กเกมกลุ่มเอ


งูนำ4-0โดนไก่ไล่4-3 เบลซัด3บิ๊กเกมกลุ่มเอ

"งูใหญ่" อินเตอร์ เกือบตาย หลังจากออกนำ "ไก่เดือยทอง" ที่เหลือ 10 ตัวตั้งแต่ต้นเกม 4-0 แล้วโดน เบล มากดแฮตทริกครึ่งหลัง ไล่มา 4-3 แต่ไม่ทัน ส่งผลให้ "งู" เก็บ สามแต้ม รั้งจ่าฝูงกลุ่ม เอ ศึก "ยูซีแอล"

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำค่ำคืนวันพุธที่ 20 ต.ค. เป็นการแข่งขันนัดที่สามของกลุ่ม เอ ที่สนาม จูเซปเป้ เมอัซซ่า เจ้าบ้าน "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน แชมป์เก่าจาก อิตาลี เปิดบ้านพบกับ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตัวแทนจากเกาะ อังกฤษ

วันนี้ ทัพ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาว สแปนิช จัดตัวผู้เล่นลงมาในระบบ 4-2-3-1 โดยใช้ ซามูเอล เอโต้ เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า และมี เฟลิเป้ คูตินโญ่, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ และมิดฟิลด์ดาวรุ่ง โจนาธาน เบียเบียนี่ คอยสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ข้างหลัง โดยดร็อปทั้ง โกรัน ปานเดฟ และ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง ส่วนในแนวรับยังคงมี ไมค่อน, ลูซิโอ, วอลเตอร์ ซามูเอล และ คริสเตียน คิวู ยืนเรียงเป็นสี่ประสานอันแข็งแกร่ง เช่นเคย

ส่วน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ของ "จ่าแฮร์รี่" แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ จัดตัวผู้เล่นลงมาได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะในแนวรับที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนเยอะมาก วันนี้ "ไก่" มาในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน โดยมี ปีเตอร์ เคร้าช์ เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า และมี อารอน เลนน่อน, แกเร็ธ เบล และ ลูก้า โมดริช เป็นสามประสานในการเชื่อมเกมรุก ส่วนปราการหลังตัวกลางเป็นหน้าที่ของ วิลเลี่ยม กัลลาส ได้โอกาสจับคู่กับ เซบาสเตียน บาสซง

เริ่มเกมขึ้นมาไม่นาน เพียงแค่นาทีที่ 2 ของการแข่งขัน "งูใหญ่" ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ในจังหวะแทงบอลทะลุช่องของ เอโต้ ให้ ซาเนตติ ที่วิ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย แปด้วยขวาสวนตัว โกเมส เข้าเสาไกลไปอย่างสวยงาม

เพียงแค่นาทีที่ 7 เท่านั้น ก็มีจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้น เมื่อ เอลโรโญ่ โกเมส ไปรวบ เบียเบียนี่ ล้มในกรอบเขตโทษ ทำให้ ดาเมียร์ สโคมิน่า ผู้ตัดสินจาก สโลวีเนีย ไม่มีทางเลือก แจกใบแดงให้ เอลโรโญ่ โกเมส ทันที และเป็นลูกโทษของ เอโต้ ที่ซัดผ่าน คาร์โล คูดิชินี่ เข้าไปอย่างสวยงาม ส่งผลให้ อินเตอร์ ออกนำ สเปอร์ ในช่วง 10 นาที แรกไปแล้ว 2-0

น.14 อินเตอร์ ก็มาออกนำห่าง 3-0 อย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 15 นาทีแรก จากจังหวะที่ เดยัน สแตนโกวิช ทะลุเข้าไปกดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 18 หลา จากการรับบอลจาก เอโต้ เข้าไปอย่างสวยงาม

น.28 สเปอร์ เกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ เลนน่อน เปิดด้วยซ้ายจากทางฝั่งขวา เข้ามาในกรอบเขตโทษ เคร้าช์ ได้โหม่งเต็มหัว แต่ว่า ข้ามคานออกไปนิดเดียว

น.35 อินเตอร์ มาฉีกหนีเป็น 4-0 หลังจาก เฟลิเป้ คูตินโญ่ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายให้ ซามูเอล เอโต้ จิ้มบอลผ่านตัว คูดิชินี่ เข้าไปง่ายๆ

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้ อินเตอร์ ยำใหญ่ สเปอร์ ในช่วงครึ่งเวลาแรก 4-0

เริ่มต้นครึ่งหลังขึ้นมาไม่นาน น.52 สเปอร์ มีฮึด ไล่ อินเตอร์ ขึ้นมาเป็น 1-4 จากจังหวะที่ เบล ลากบอลมาคนเดียวจากทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนกระชากเข้าไปในเขตโทษ สไตล์ข้ามาคนเดียว แล้วตัดสินใจซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งผ่านมือ ฮูลิโอ เซซาร์ เข้าเสาไกลไปอย่างสวยงาม

น.55 ดาวิเด้ ซานตอน ตัวสำรองของ "งูใหญ่" เกือบมาทำประตูที่ 5 ให้ อินเตอร์ จากจังหวะที่ได้บอลทางริมกรอบเขตโทษฝั่ง ก่อนที่จะลากเข้าขวาหลบ อลัน ฮัตตัน แล้วซัดเต็มข้อด้วยขวา บอลพุ่งจะเสียบเสาแรก แต่ คูดิชินี่ พุ่งปัดออกไปได้

น.67 "จ่าแฮร์รี่" แก้เกมในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ด้วยการเปลี่ยนเอา ปีเตอร์ เคร้าช์ ออก และส่ง ร็อบบี้ คีน อดีตศูนย์หน้าที่เคยเล่นอยู่กับ "งูใหญ่" ลงมาเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนที่

น.87 สเปอร์ มีโอกาสไล่ตีตื้นขึ้นมา จากจังหวะที่ อลัน ฮัตตัน แบ็กขวาของทีม ลากบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนหักเข้ากลางแล้วตัดสินใจซุดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว

ช่วงนาทีที่ 90 เกิดเรื่องเหลือเชื่อ เมื่อ สเปอร์ ยิงสองลูกในสองนาทีอย่างเหลือเชื่อ จาก กาเร็ธ เบล ที่ได้จังหวะซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ ทั้งสองลูก เข้าเสาไกล ผ่านมือของ เซซาร์ ไปอย่างสวยงาม

หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกม "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน เฉือน สเปอร์ สุดมันส์ 4-3 เก็๋บสามแต้ม ขึ้นรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม เอ ส่วน สเปอร์ มีเพียงแค่ 4 แต้มเท่าเดิม อยู่อันดับที่สองต่อไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม
อินเตอร์ มิลาน : ระบบ 4-2-3-1
ฮูลิโอ เซซาร์ (ผู้รักษาประตู), ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ, วอลเตอร์ ซามูเอล, คริสเตียน คิวู (โกรัน ปานเดฟ 61), เดยัน สแตนโกวิช (ดาวิเด้ ซานตอน 50), ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, เฟลิเป้ คูตินโญ่, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, โจนาธาน เบียเบียนี่ (อีบัน คอร์โดบ้า 75), ซามูเอล เอโต้
ผู้จัดการทีม : ราฟาเอล เบนิเตซ

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : ระบบ 4-2-3-1
เอลโรโญ่ โกเมส (ผู้รักษาประตู), อลัน ฮัตตัน, วิลเลี่ยม กัลลาส, เซบาสเตียน บาสซง, เบอร์นัว อัสซู เอก็อตโต้, เจอร์เมน จีนัส, ทอม ฮัดเดิลสตัน (วิลสัน ปาลาซิออส 80), อารอน เลนน่อน, แกเร็ธ เบล, ลูก้า โมดริช (คาร์โล คูดิชินี่ 8), ปีเตอร์ เคร้าช์ (ร็อบบี้ คีน 67)
ผู้จัดการทีม : แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์

ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)